เดือนนี้มีทั้งเทศกาลสงกรานต์ วันครอบครัว วันหยุดเยอะอย่างนี้ เราต้องมีแผนเที่ยวและเดินทางหรือกลับบ้านกันแน่นอน บางคนคิดจะใช้คนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกันให้คุ้มกับที่รัฐจัดให้ แต่ไม่ว่าจะไปไหน อย่าลืม! ไอเทมสำคัญที่ต้องมีใช้ป้องกันติดเชื้อ ในช่วงที่ไวรัสยังระบาดไม่หยุดกันด้วย จะมีอะไรบ้าง…มาเช็กให้ครบกันเถอะ!

เที่ยวเดินทางได้ แค่เตรียมป้องกันไว้ให้พร้อม!!

เข้าสู่เดือนเมษายน เดือนที่มีเทศกาลสำคัญของบ้านเรา  เดือนที่มีวันครอบครัวและวันหยุดเยอะ แบบนี้เรียกได้ว่าเป็นช่วงเวลาอันเหมาะสมที่เราจะได้จัดกระเป๋า พาครอบครัว ชวนเพื่อนและคนรู้ใจออกเดินทางสู่สถานที่เที่ยว หรือ หมุดหมายที่ตั้งใจไม่ว่าจะไปเยี่ยมญาติหรือทำบุญ เพราะจากสถานการณ์โควิดอันแสนยาวนาน ทำให้หลายคนไม่ได้เดินทาง พบปะพี่น้องพ่อแม่ ฉะนั้นในเมื่อถึงช่วงเวลาวันหยุดสำคัญแบบนี้ เชื่อว่าหลายคนคงไม่พลาดที่จะต้องกลับไปสร้างความสุข สร้างรอยยิ้ม ต้อนรับเทศกาลปีใหม่ไทยกันแน่นอน

 แต่การจะเดินทางท่องเที่ยวขณะที่สถานการณ์โควิดยังติดเชื้อมากมาย แม้จะไม่มีอาการรุนแรง แต่ส่งผลทำสุขภาพเสียหายได้แน่ๆ ฉะนั้นก่อนการเดินทางย่อมต้องมีการเตรียมความพร้อมเพื่อให้ทริปการเดินทางครั้งนี้ สะดวก ราบรื่น และ ปลอดภัยไร้ติดเชื้อ ไร้กังวล เราจึงจะมาแนะนำสิ่งของจำเป็นเมื่อต้องท่องเที่ยวในช่วงที่มีโควิดที่ทุกคนควรทำเช็กลิสต์ไว้  เพื่อให้มั่นใจว่าเราจะเที่ยวและเดินทางไปที่ต่างๆ ได้อย่างปลอดภัย พร้อมกับความสุข โดยไม่ลืมอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยสำหรับสุขภาพ และการเพิ่มการ์ดให้จมูกป้องกันการติดเชื้อ นั่นคือ

1) หน้ากากอนามัยสำรอง

ไม่ว่าจะเดินทางไปที่ไหน ควรเตรียมหน้ากากอนามัยสำรองไว้ใช้ให้เพียงพอสำหรับทุกวันในการเดินทาง ไม่ควรคิดว่าจะไปหาซื้อเอาข้างหน้าตามร้านสะดวกซื้อ แม้ว่าทุกที่จะมีขายจริง แต่ในเวลาฉุกเฉินเราไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะมีร้านขายหรือไม่ หรือหากต้องเดินทางไปในต่างจังหวัดซึ่งหาร้านค้าได้ยาก อาจไม่มีหน้ากากอนามัยให้ใช้จนเสี่ยงติดเชื้อได้ ที่สำคัญคือในแต่ละวันเราควรเปลี่ยนหน้ากากอนามัยและไม่ใช้ซ้ำ

โดยกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ได้ออกมาเตือนว่าการใส่หน้ากากอนามัยซ้ำๆ มีโอกาสเสียชีวิตจากแบคทีเรียที่สะสมอยู่ เพราะหน้ากากอนามัยเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคต่างๆ มากมาย ดังนั้นทุกคนจึงควรเปลี่ยนหน้ากากอนามัยทุกๆ 6-8 ชั่วโมง เมื่อหน้ากากเปียกชื้น สกปรก หรือเมื่อออกจากสถานที่เสี่ยง/แออัด และควรทิ้งหน้ากากอนามัยอย่างถูกต้องทุกครั้งหลังใช้โดยทิ้งในถังขยะที่มีฝาปิด กรณีใช้ในโรงพยาบาลให้ทิ้งในถังขยะติดเชื้อและกำจัดตามกฎกระทรวงว่าด้วยการกำจัดมูลฝอยติดเชื้อ พ.ศ.2545 สำหรับหน้ากากผ้าให้ซักทุกวันด้วยสบู่หรือผงซักฟอกและตากแดดให้แห้ง พร้อมทั้งล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำทุกครั้ง

2) เจลหรือสเปรย์แอลกอฮอล์ล้างมือพกพา

เจลล้างมือและสเปรย์แอลกอฮอล์คือสิ่งของจำเป็นและสำคัญที่ทุกคนต้องพกติดตัวไว้ตลอดเวลา และใช้ทุกครั้งเมื่อมีการสัมผัสตามสถานที่ต่างๆ  เพื่อป้องกันการติดเชื้อ โดยล้างมือด้วยแอลกอฮอล์เจลล้างมือ อย่างน้อย 20 วินาที ดังนั้นเมื่อต้องเดินทางท่องเที่ยว ควรมีเจลหรือสเปรย์แอลกอฮอล์ไว้ล้างมือสำรองไว้ให้เพียงพอ ซึ่งกรณีที่ต้องเดินทางโดยเครื่องบินก็สามารถนำติดตัวไปได้ทั้งพอขึ้นเครื่องและนำไปใส่ในกระเป๋าสัมภาระที่โหลดใต้ท้องเครื่องบินได้ โดยมีกฎเกณฑ์การพกเจลแอลกอฮอล์ล้างมือที่ผ่อนปรนไว้ว่า

ผู้โดยสารสามารถนำเจลล้างมือขึ้นบนห้องโดยสารอากาศยานในบรรจุภัณฑ์ที่มีปริมาณความจุไม่เกิน 350 มิลลิลิตร หรือ12 ออนซ์ (จากเดิม 100 ML.) โดยนำไปได้หลายชิ้น แต่ต้องมีปริมาณรวมกัน หรือรวมกับของเหลว เจล สเปรย์อื่นๆ สูงสุดได้ไม่เกินคนละ 1,000 มิลลิลิตร กรณีนำเจลหรือสเปรย์แอลกอฮอล์ไว้ในกระเป๋าสัมภาระใต้เครื่องบิน ผู้โดยสารสามารถนำเจลล้างมือในบรรจุภัณฑ์ที่มีปริมาณความจุไม่เกิน 500 มิลลิลิตร (17 ออนซ์)  แต่ต้องมีปริมาณรวมกันหรือรวมกับของเหลว เจล สเปรย์อื่นๆ สูงสุดได้ไม่เกินคนละ 2,000 มิลลิลิตร

3) สเปรย์พ่นจมูกชนิดผง Nasaleze Travel (นาซัลลีซ ทราเวล) นวัตกรรมใหม่เพื่อสุขภาพมากคุณสมบัติที่ช่วยป้องกันไวรัสในอากาศไม่ให้เข้าสู่จมูกจนเกิดการติดเชื้อได้ ด้วยความพิเศษต่างๆ นั่นคือ 

• ผลิตจากสารสกัดธรรมชาติ 100%  มีส่วนผสมของผงเซลลูโลส(HPMC) 93% จากเปลือกสนอังกฤษ  ผงกระเทียมป่ายุโรป 5% และผงเปปเปอร์มิ้น 2%
• เปลี่ยนผงสเปรย์เป็นเจลใสในจมูก ช่วยดักจับและป้องกันไวรัสที่แพร่กระจายในอากาศเข้าสู่เยื่อบุจมูก
• ทำให้เชื้อโรค ไวรัส มีฤทธิ์อ่อนลง ช่วยลดอาการรุนแรง และลดระยะเวลาในการรักษาโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ เช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ได้
• ผ่านการทดสอบทางคลินิก  ยืนยันประสิทธิภาพในการใช้งานได้จริง ใช้แล้วกว่า 50 ประเทศทั่วโลก
• พ่นเพียง 1 ครั้ง ออกฤทธิ์เร็วภายใน 2 นาที นาน 6 ชั่วโมง พ่นเพียงวันละ 2-3 ป้องกันไวรัสได้ทั้งวัน
• ปลอดภัยสูง ไม่มีส่วนผสมของยา ไม่มีผลข้างเคียง ใช้ได้ในเด็กวัย 3 ปีขึ้นไป คุณแม่ตั้งครรภ์และให้นมบุตร
• ผ่านการรับรอง ได้รับใบอนุญาตโฆษณาเครื่องมือแพทย์จาก อย. เลขที่ ฆพ.1059/2564
• มีเอกสารใบอนุญาตนำเข้าเครื่องมือแพทย์ เลขที่ GBR6304847
• ควรใช้สเปรย์พ่นจมูกก่อนออกจากบ้าน เมื่อเดินทาง ต้องออกไปอยู่ท่ามกลางกลุ่มคนหนาแน่น หรือที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อจากไวรัส และแบคทีเรีย

4) เสื้อผ้าหรือผ้าที่ต้องใช้สำหรับเปลี่ยนให้เพียงพอ (ไม่ใส่หรือใช้ซ้ำ)

เมื่อต้องเดินทางท่องเที่ยวควรเตรียมเสื้อผ้าที่ต้องใช้ไม่ว่าจะเป็นชุดอะไรให้เพียงพอ  รวมถึงหากไม่ได้ไปอยู่โรงแรม รีสอร์ท ที่เตรียมผ้าผืนใหม่ที่ผ่านการซักฆ่าเชื้อแล้วพร้อมสำหรับเรา เป็นสถานที่ที่ไม่มีผ้าเช็ดตัว หรือผ้าเช็ดหน้าไว้ให้ เราต้องเตรียมจัดใส่กระเป๋าไปให้ครบถ้วน เพราะการไปใช้ของคนอื่นเราไม่อาจแน่ใจได้ว่าจะผ่านการทำความสะอาดฆ่าเชื้อหรือยัง ทำให้เราเสี่ยงได้รับสิ่งสกปรกและเชื้อโรคได้ง่าย  เพราะหากไม่นำเสื้อผ้าและผ้าที่จำเป็นต้องใช้ไปให้เพียงพอ การหยิบยืมของคนอื่นหรือแม้แต่ซื้อใหม่แล้วไม่ได้ซัก ก็ล้วนทำให้ติดเชื้อได้ทั้งสิ้น

 5) ถุงแยกผ้าที่ใส่แล้วไม่ให้ปนกัน

หลายคนเวลาเดินทางมีกระเป๋าใบเดียว ไม่ได้เตรียมถุงหรือกระเป๋าสำหรับแยกผ้าที่ใช้แล้วกับเสื้อผ้าใหม่ จึงทำให้ต้องนำเสื้อผ้าที่ใส่แล้วปนอยู่ในเสื้อผ้าที่ยังไม่ได้ใส่ แบบนี้ถือว่าใช้ไม่ได้ เพราะสิ่งสกปรกความอับชื้นและเชื้อโรคในเสื้อผ้าที่เราใส่เที่ยวทั้งวันจะไปปนอยู่กับเสื้อผ้าสะอาด ทำให้เชื้อโรคปนเปื้อนวนเวียนอยู่ในกระเป๋าและเสื้อผ้าของเราตลอดเวลา ดังนั้นหากมีถุงผ้าแยกไม่ให้ปนกันก็จะทำให้เสื้อผ้าใหม่สะอาดไม่ปนเปื้อน เสื้อผ้าที่ใส่แล้วก็อยู่ในถุงแยกออกไป ถือว่ายังถูกสุขอนามัย และเมื่อมีโอกาสหรือเดินทางกลับเมื่อไรก็จะได้รีบนำไปซักฆ่าเชื้อทันที

6) ชุดตรวจ ATK ในกรณีที่บางสถานที่ของให้โชว์ผลการตรวจ

ทุกวันนี้ชุดตรวจเชื้อโควิดแบบ ATK ถือเป็นสิ่งสำคัญที่จำเป็นต้องมีทุกบ้าน ดังนั้นเวลาเดินทางก็เช่นกัน เพราะในบางสถานที่ก่อนเข้าไปเที่ยว ไปชม แม้จะมีประกาศการเปิดประเทศ และคลายล็อคดาวน์แล้วนั้น แต่ต้องอย่าลืมว่าการเดินทางเข้าออกบางจังหวัดจะต้องแสดงผลตรวจโควิดก่อนวันเดินทาง หรือก่อนเข้าไปในจังหวัดที่มีข้อกำหนดให้แสดงผล

แม้กระทั่งก่อนขึ้นเครื่องบินไปต่างประเทศหรือในบางสายการบินในประเทศเอง ก็จำเป็นต้องแสดงผลตรวจโควิดว่าติดเชื้อหรือไม่  ดังนั้นหากไม่ได้ตรวจก่อนเดินทาง การพกชุดตรวจ ATK ไปด้วยจะช่วยให้เราตรวจหาเชื้อในร่างกายตัวเองได้สะดวกทันที  แต่หากไม่มี อาจต้องวิ่งวุ่นหาซื้อให้ฉุกละหุก เสียเวลา หรืออาจอดเดินทางท่องเที่ยวในทริปนั้นไปเลยก็เป็นได้

7) ถุงขยะใส่อุปกรณ์ติดเชื้อ

อีกสิ่งของจำเป็นในยุคนี้คือถุงขยะสำหรับใส่อุปกรณ์ติดเชื้อเพื่อทิ้งให้ถูกสุขอนามัย เชื้อโรคไม่แพร่กระจาย เพราะถึงขยะนี้ต้องนำมาใส่หน้ากากอนามัย และชุดตรวจ ATK  ซึ่งหน้ากากอนามัยที่เป็นขยะติดเชื้อนั้น หากจัดการไม่ถูกต้องจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นแหล่งของเชื้อก่อโรค โดยเฉพาะเชื้อโรคที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ได้แก่ แบคทีเรีย ไวรัส เชื้อราบางชนิด ปรสิตบางชนิด ซึ่งจะเจริญเติบโตและก่อโรคแก่ผู้ที่ไปสัมผัส รวมถึงเชื้อโควิด19 ที่กำลังระบาดและติดเชื้อได้ง่ายอยู่ในขณะนี้  ที่สำคัญก่อนทิ้งอย่าลืมฆ่าเชื้อด้วยแอลกอฮอล์หรือน้ำยาฆ่าเชื้อ เช่นน้ำยาล้างห้องน้ำหยดก่อนใส่ถุงทิ้ง เพื่อให้เชื้อโรคตายหรือลดน้อยลง พนักงานเก็บขยะหรือทำความสะอาดจะได้ไม่เสี่ยงติดเชื้อจากขยะของเราไปด้วย

8) ถุงมือใช้แล้วทิ้ง

ควรมีไว้เพื่อใช้หยิบจับสิ่งของสาธารณะต่างๆ ที่ผ่านมือคนมากมาย เช่น ลิฟต์ บันไดเลื่อน ราวบันได ลูกบิด ของใช้ หยิบจับกระเป๋า  เข้าห้องน้ำ หรืออื่นๆ รวมถึงไว้ใช้ในยามที่ต้องหยิบขยะติดเชื้อ หยิบหน้ากากอนามัยทิ้ง

9) เอกสารการได้รับวัคซีนทุกเข็มให้ครบถ้วน

เนื่องจากบางสถานที่ต้องแสดงข้อมูลก่อนเข้าท่องเที่ยว ต้องมีเอกสารยืนยันการฉีดวัคซีนก่อนเข้าสถานที่ท่องเที่ยวหรือเดินทางไปในที่ต่างๆ  ทุกคนจึงจำเป็นต้องมีเอกสารหรือภาพที่แสดงว่าเรามีประวัติได้รับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อโควิด ครบทุกเข็ม ไม่ว่าจะเป็นเข็มที่ 2 เข็มที่ 3 หรือเข็มที่ 4 เพื่อแสดงก่อนเดินทาง ก่อนเข้าจังหวัดที่มีข้อกำหนด หรือก่อนที่จะเข้าท่องเที่ยวในสถานที่ต่างๆ

10) ข้อมูลของสถานที่ที่เที่ยวที่เปิด ข้อจำกัดในการเข้าชม

เพื่อรักษาเวลาในการเดินทาง เที่ยวได้สนุก ทริปไม่ล่ม และยังเลือกรูปแบบการเดินทางท่องเที่ยวให้ประหยัดเวลาและคุ่มค่ามากขึ้น ก่อนเดินทางควรต้องเตรียมความพร้อมในเรื่องของข้อมูลว่าสถานที่ไหนเปิดเมื่อไร มีข้อกำหนดเข้าชมแบบไหน

และตรวจสอบโรงแรมที่พักว่าผ่านมาตรฐานการควบคุมโรคหรือไม่ มีข้อกำหนดก่อนก่อนที่จะจองและเข้าพักอย่างไร โดยข้อมูลเหล่านี้เราสามารถเช็กได้กับโรงแรมที่จะไปเข้าพักได้ เพราะโรงแรมก็มีมาตรการในการป้องกัน และลดความเสี่ยงของพนักงาน และแขกผู้เข้าพัก โดยในแต่ละสถานที่ ก็จะมีมาตรการที่แตกต่างกันออกไป

               รวมถึงควรวางแผนเดินทางและเช็กสถานที่ต่างๆ ว่าเปิดบริการและมีมาตรการในการเข้าไปเที่ยวอย่างไร เนื่องจากจะได้เตรียมสิ่งจำเป็นให้ครบถ้วนและจองก่อนเข้าล่วงหน้า เนื่องจากในช่วงนี้บางสถานที่อาจจะต้องมีการสำรองล่วงหน้า เพื่อเป็นการจำกัดจำนวนผู้คนที่จะเข้าใช้บริการ หากครอบครัวเดินทางไปโดยไม่ได้จองก็อาจเข้าไม่ได้จนเสียเวลาและเสียความรู้สึก หมดสนุกกับการเที่ยวได้นั่นเอง