ลูกจะเปิดเทอมแล้ว พ่อแม่เตรียมเครื่องมือสำคัญป้องกันไวรัสให้ลูกหรือยัง? เพราะโรคนี้ยังติดเชื้อสูงอยู่ทุกวัน แถมลูกๆ วัยประถมก็ยังไม่ได้วัคซีนป้องกัน แบบนี้ต้องเตรียมผู้ช่วยป้องกันโรคร้ายใส่กระเป๋าให้ลูกไว้แบบพร้อมได้แล้ว!

แม้ผู้ใหญ่ได้รับวัคซีนครบ แต่ก็ติดและแพร่เชื้อได้ ไว้ใจได้หรือ??

อีกไม่กี่วันเด็กๆ จะต้องไปโรงเรียนเพราะเปิดเทอมแล้ว คุณพ่อคุณแม่เตรียมพร้อมที่จะป้องกันลูกรักจากไวรัสร้ายโควิดกันหรือยัง? ถ้ายังต้องรีบจัดกระเป่าเตรียมของให้ลูกเพื่อป้องกันไวรัสขั้นสุดกันแล้ว เพราะเราต่างก็รู้ดีว่าเด็กๆ ยังไม่เดียงสา ไม่รู้จักระมัดระวังตัวเอง  ยิ่งลูกวัยอนุบาลหรือประถมศึกษาที่ยังไม่ได้รับวัคซีนกันสักเข็ม หากติดเชื้อมาพ่อแม่อย่างเราคงจะปวดใจ ไม่มีใครอยากให้ลูกต้องเจ็บป่วยไม่สบายแน่นอน

ที่สำคัญคุณหมอผู้เชี่ยวชาญคนดัง ก็ยังได้ออกมาเตือนและย้ำนักหนาว่า แม้ฉีดวัคซีนไปแล้ว ก็ยังสามารถติดเชื้อได้ หากไม่ป้องกันตัวอย่างเคร่งครัด ฉะนั้นแม้ครู อาจารย์หรือบุคลากรในโรงเรียนจะได้รับวัคซีนกันครบแล้วก็ไว้ใจไม่ได้ เพราะวัคซีนไม่ได้ประกันว่าคนนั้นจะไม่ติดเชื้อ และความอันตรายคือ หากติดเชื้อ ปริมาณไวรัสในตัวของคนที่ฉีดวัคซีนก็มีปริมาณมากพอๆ กับคนที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน นั่นหมายความว่าคนคนนั้นสามารถแพร่เชื้อให้กับคนใกล้ชิดภายในบ้าน ในที่ทำงาน และคนอื่นๆ ในสังคมได้ หากไม่ป้องกันตัวอย่างเคร่งครัด

ยังมีการศึกษาเมื่อเร็วๆ นี้ ที่ชี้ให้เห็นว่า คนที่ฉีดวัคซีนไปครบแล้ว ก็ยังสามารถติดเชื้อแล้วมีโอกาสแพร่ให้คนใกล้ชิดภายในบ้าน หรือคนอื่นๆ ที่ยังไม่ได้วัคซีนได้ถึง 38% และแม้ว่าคนในบ้านเหล่านั้นจะได้รับวัคซีนครบแล้ว ก็ยังมีโอกาสติดเชื้อได้ถึง 25%  นั้นทุกคนและคุณพ่อคุณแม่จึงควรตระหนักถึงความสำคัญของการป้องกันตัวเองให้แก่ลูกรักอย่างเคร่งครัด  เพราะหากผู้ใหญ่ที่เป็นครู อาจารย์ บุคคลากรในโรงเรียนจะได้รับวัคซีนครบกันแล้ว แต่ก็สามารถแพร่เชื้อให้คนอื่นๆ ได้ ยิ่งครูที่ต้องพูด สอน และคุยกับเด็กๆ เกือบตลอดเวลา ยิ่งอันตราย เพราะน้ำลายและเสมหะที่ลอยในอากาศคือเชื้อโรคที่แพร่กระจายระบาดได้ในห้องเรียน!! 

หมอแนะ 8 ทริค ลดเสี่ยงโควิดให้ลูกเมื่อไปโรงเรียน

ล่าสุด รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กให้ความรู้ผู้ปกครองถึงแนวทางการดูแลลูกให้ห่างไกลจากโควิด-19 ในช่วงเวลาที่โรงเรียนกำลังจะเปิดเทอม หรือเรียนแบบ On-Site ในวันที่ 1 พ.ย. 64  ดังนี้

1. ตื่นเช้ามา เช็คกันสักหน่อยว่าทุกคน”สบายดีไหม?” มีอาการไข้ ครั่นเนื้อครั่นตัว คัดจมูก จาม น้ำมูกไหล ไอ เจ็บคอ บ้างไหม? จมูกดมกลิ่นได้ดี ลิ้นรับรสได้ดี? หากใครไม่สบาย…ไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อคุณแม่หรือคุณลูก ก็ให้อยู่กับบ้าน รับผิดชอบต่อตัวเองครอบครัวและสังคม
2. ย้ำกันเสมอ “ออกจากบ้านมีความเสี่ยงต่อโรค COVID-19” นะ ควรป้องกันตัวอย่างเคร่งครัด รีบไปรีบกลับ ไม่เถลไถล
3. ทบทวนกันว่า ถ้า “ใช้ห้องน้ำห้องส้วมข้างนอกต้องระวัง” ก็ต้องรักษาความสะอาดดีๆ พ่อแม่และเด็กโตควรใส่หน้ากากเสมอ เด็กเล็กใส่หน้ากากไม่สะดวก ดังนั้นต้องเน้นว่าใช้ห้องน้ำห้องส้วมแล้วต้องรีบไปล้างมือทุกครั้ง
4. แจ้งกันให้ทราบทั่วกันทั้งพ่อแม่ลูก ว่าให้หลีกเลี่ยงการไปใช้ของร่วมกับคนอื่น เช่น แก้วน้ำ ช้อนส้อม ตะเกียบ โทรศัพท์ ปากกา ดินสอ ไม้บรรทัด ยางลบ หรือแม้แต่ขนมอมยิ้มก็ตามแต่
5. เน้นเด็กๆ ว่า “เจอเพื่อนฝูง ทักทายกันได้ตามสมควร แต่ให้สังเกต” ว่าเพื่อนคนไหนที่มีอาการไม่สบาย ไอ จาม ต้องหลีกมาห่างๆ ไม่ไปคลุกคลี และบอกคุณครูให้ช่วยดูแลเพื่อน
6. เตือนเด็กๆ ว่า “อย่าเอามือขยี้ ล้วง แคะ แกะ เกา บริเวณตา จมูก และปาก”
7. “เช็คอาวุธ”ประจำตัวของทุกคนก่อนออกจากบ้าน นั่นคือการใส่หน้ากากอนามัย และพกเจลแอลกอฮอล์ไว้เสมอ
8. ตอนเย็น ไปรับที่โรงเรียน เจอกันพ่อแม่ลูก อย่าเพิ่งดีใจไปกอดหอมกันให้หายคิดถึง ให้คุณพ่อคุณแม่ควักเจลแอลกอฮอล์มาหยดให้ทุกคนล้างมือกันก่อน หรือพากันไปล้างมือที่ห้องน้ำ ไปหอมกันตอนกลับถึงบ้าน อาบน้ำอาบท่า แล้วค่อยทำ เหล่านี้คือสิ่งที่ทุกครอบครัวควรนำไปใช้ปฏิบัติในชีวิตประจำวันหลังจากเปิดเรียน

          นอกจากนี้ คุณพ่อคุณแม่หรือผู้ปกครองคือคนสำคัญที่จะสอนเด็ก และเตรียมพร้อมจัดกระเป๋าเพื่อให้เขาได้มีอุปกรณ์จำเป็นในการป้องกันโรคภัยไว้อย่างครบถ้วน นอกจากการใส่หน้ากาก 2 ชั้นตลอดเวลาแล้ว ลูกต้องมีของใช้จำเป็นต่างๆ เพื่อป้องกันไวรัสและการติดเชื้ออย่างจัดเต็ม ไปดูกันว่ามีอะไรที่คุณพ่อคุณแม่ต้องจัดเตรียมไว้ให้ลูก เพื่อความปลอดภัยในการป้องกันโรคกันบ้าง

เช็กสิ จัดของสำคัญให้ลูกพร้อมหรือยังนะ??

• หน้ากากอนามัยสำรอง  นั่นคือพ่อแม่ต้องเตรียมหน้ากากอนามัยสำรองใส่ซองเผื่อไว้ให้ลูก 3-4 ชิ้น เพื่อจะได้ให้ลูกใช้เปลี่ยนระหว่างวัน หรือเวลาที่ลูกทำหล่นเลอะเทอะสกปรก จะได้นำของใหม่มาใช้ไม่ให้ติดเชื้อ
• หน้ากากผ้าสำรอง ควรมีหน้ากากผ้าสำรองเพราะการใส่หน้ากากผ้าชั้นนอกในบางครั้งอาจสกปรกเลอะเทอะ ได้ฉะนั้นหากมีสำรองไว้ลูกก็จะสามารถเปลี่ยนได้ทั้งหน้ากากผ้าและหน้ากากอนามัยแบบใช้แล้วทิ้ง หรือกรณีลูกลืมหน้ากากใช้แล้วทิ้งมา ก็ยังนำมาใช้ยามฉุกเฉินได้ด้วย
• ถุงสำหรับเก็บ และถุงสำหรับทิ้ง  อันนี้คือเตรียมไว้ให้ลูกไว้ใช้สำหรับเก็บเฉพาะหน้ากากอนามัยแยกกับของใช้อื่นๆ จะได้ไม่ปะปนให้สกปรกติดเชื้อ และมีถุงสำหรับทิ้งหน้ากากอนามัยของตัวเองก่อนที่จะนำไปทิ้งในถังขยะ เพื่อความสะอาดส่วนตัวและรับผิดชอบส่วนรวม
• กระติกน้ำส่วนตัว เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องเตรียมให้ลูกไว้ เพื่อจะได้ไม่ไปดื่มน้ำร่วมแก้วกับคนอื่นๆ รวมทั้งไม่ต้องไปกดน้ำที่ตู้ส่วนรวม เพื่อป้องกันการติดเชื้อ และลูกจะได้มีน้ำสะอาดไว้ดื่มได้ตลอดเวลา คุณพ่อคุณแม่จึงควรเตรียมกระติกที่สามารถน้ำไว้ให้ลูกอย่างเพียงพอในแต่ละวันด้วย
• ช้อนส้อมส่วนตัว อีกไอเทมที่จำเป็นและสำคัญเพื่อลูกจะได้หยิบมาใช้ทานอาหารโดยไม่ต้องปะปนกับใคร เพราะเราไม่มั่นใจว่าของที่ใช้ในโรงเรียนสะอาดแค่ไหน หากลูกมีช้อนส้อมไว้ใช้ส่วนตัวจะได้มั่นใจว่าสะอาดปลอดภัยกว่า
• ทิชชู่แบบแห้ง  เป็นทิชชู่สารพัดประโยชน์ที่ลูกและทุกคนควรมีติดกระเป๋าไว้ เพราะหากลูกมีน้ำมูก น้ำลาย หรือมือสกปรก จะได้นำมาใช้เช็ดคราบเลอะเทอะออกก่อนที่จะใช้เจลแอลกอฮอลล์ล้างมือ หรือให้ลูกติดเอาไว้เพื่อใช้เช็ดสิ่งสกปรกอื่นๆ 
• ทิชชู่แบบเปียก/เบบี้ไวพ์ ยิ่งเดี๋ยวนี้มีทิชชู่เปียกที่ผสมแอลกอฮอลล์ก็ควรให้ลูกได้พกพาไว้ เพื่อเช็ดโต๊ะ เช็ดมือ เช็ดโถชักโครกก่อนเข้าห้องน้ำ หรือเช็ดของใช้ไม่ให้มีเชื้อโรค ซึ่งหากเป็นทิชชู่เปียกมีแอลกอฮอลล์ต้องสอนและระวังไม่ให้ลูกนำมาเช็ดบริเวณที่บอบบางเช่น ดวงตา หรืออวัยวะเพศ เพราะอาจระคายเคืองได้
• เจลแอลกอฮอล์ หรือแอลกอฮอลล์สเปรย์แบบห้อยกระเป๋าได้ เพื่อให้ลูกรักได้พกติดกระเป๋าไว้ใช้ได้สะดวกทุกที่ทุกเวลา  หรือจะเป็นแบบที่สามารถห้อยคอได้มีน้ำหนักเบาและขนาดเล็ก ก็จะทำให้ลูกพกติดตัวไว้ได้สะดวกยิ่งขึ้น แต่คุณพ่อคุณแม่ต้องหมั่นตรวจสอบเติมแอลกอฮอลล์และเปลี่ยนขวดใหม่เสมอ เพื่อไม่ให้เจอแอลกอฮอลล์หมด
• สเปรย์พ่นจมูกชนิดผง นาซัลลีซ ทราเวล (Nasaleze Travel) ช่วยสร้างเกราะป้องกันในจมูกให้ลูกรัก ช่วยทำให้คุณพ่อคุณแม่อุ่นใจว่าลูกได้พ่นสเปรย์เมื่อไร ไวรัสก็จะไม่เข้าร่างกายลูกได้ง่ายแน่นอน

ด้วยคุณสมบัติช่วยป้องกันไวรัสดังนี้

• ผลิตจากสารสกัดจากธรรมชาติ HPMC หรือผงเซลลูโลส ผงกระเทียมป่ายุโรป และ ผงเปเปอร์มิ้นท์ ที่จะเปลี่ยนเป็นเจลในโพรงจมูก ดักจับและป้องกันเชื้อไวรัส ที่แพร่กระจายในอากาศ ไม่ให้เข้าสู่เยื่อบุโพรงจมูกของลูกรัก
• มีผลการศึกษาผ่านการทดสอบทางคลินิกยืนยัน สามารถป้องกันและลดความรุนแรงของไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ ทำให้ไวรัสมีฤทธิ์อ่อนลง ลดจำนวนเชื้อไวรัส ลดความเสี่ยงการติดเชื้อทางเดินหายใจ
• ไม่มีส่วนผสมของยา อ่อนโยน ไม่มีผลข้างเคียง ลูกไม่เจ็บ ไม่แสบไม่ระคายเคือง
• ผลิตในประเทศอังกฤษ มาตรฐานระดับสากล ใช้แล้วกว่า 50 ประเทศทั่วโลก
• อ่อนโยน ปลอดภัยสูง ใช้ในเด็กอายุ 3 ปีขึ้นไป ผู้สูงวัย คุณแม่ตั้งครรภ์และคุณแม่ให้นมบุตรได้
• พ่น 1 ครั้ง ออกฤทธิ์นาน 6 ชั่วโมง ออกฤทธิ์เร็วภายใน 2 นาที เพียงให้ลูกพ่นวันละ 2-3 ครั้ง ก็ป้องกันเชื้อไวรัสได้ทั้งวัน
• ใช้ง่ายเพียงเปิดฝา เขย่า พ่นจมูกข้างละ1-2 ครั้ง และเช็ดทำความสะอาด แถมยังคุ้มค่า 1 ขวด ใช้ได้ถึง 200 ครั้ง 

Ref. https://news.thaipbs.or.th/content/307938 / https://www.komchadluek.net/hot-social/483681/

https://www.thairath.co.th/news/society/2193648