เมื่อไรที่คนเป็นภูมิแพ้จามบ่อยเกินไป คัดแน่นจมูก และมีน้ำมูกไหลไม่หาย คงเฉยต่อไปไม่ได้เพราะหากปล่อยอาการแพ้แบบนี้เรื้อรังนานไป จะเสี่ยงต่ออาการรุนแรงที่แก้หรือรักษาได้ยาก เราจึงมาแนะนำไอเทมสำคัญประจำตัวที่จะช่วยป้องกันสารก่อภูมิแพ้ ลดอาการแพ้ไม่ให้เป็นได้ง่ายหรือกำเริบได้มากขึ้น  

เคยสงสัยไหม ตอนเด็กไม่เคยแพ้ ทำไมจึงแพ้ตอนเป็นผู้ใหญ่

            สำหรับคนที่เป็นภูมิแพ้ ไม่จำเป็นจะต้องป่วยภูมิแพ้ตั้งแต่ยังเด็ก เพราะทุกคนสามารถป่วยเป็นภูมิแพ้เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ได้ เพราะสาเหตุของโรคภูมิแพ้ เกิดได้ทั้งจาก พันธุกรรม และที่สำคัญคือสิ่งแวดล้อม ที่ทำให้การแสดงออกของอาการโรคภูมิแพ้ จะเกิดขึ้นเร็วหรือช้า จะเกิดขึ้นในวัยเด็กหรือในวัยผู้ใหญ่ ขึ้นอยู่กับยีน หรือพันธุกรรมที่จะแสดงออก โดยมีปัจจัยสิ่งแวดล้อมเป็นตัวกระตุ้น

แต่ก่อนเคยแพ้แค่ไรไรฝุ่น แต่ปัจจุบันแพ้เยอะแยะไปหมด เพราะอะไร? หลายคนคงมีคำถามสงสัยว่าแต่เดิมมีอาการแพ้เฉพาะแค่สารก่อภูมิแพ้บางอย่าง เช่น เคยแพ้แค่ไรฝุ่น แต่ปัจจุบันมีอาการแพ้กับสารกระตุ้นหลายอย่างแถมยังมีอาการที่มากขึ้น สาเหตุเป็นเพราะโรคภูมิแพ้ เกิดจากความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายที่ทำงานมากเกินไป ทำให้อวัยวะที่แพ้หรือที่มีอาการนั้น มีความไวหรือตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้นมากผิดปกติ การที่เราแพ้สารก่อภูมิแพ้มากชนิดขึ้นและมีอาการมากขึ้น เกิดจากมีเหตุที่ไปกระตุ้นอวัยวะเป้าหมายมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งคนที่เป็นภูมิแพ้ไม่ได้หลีกเลี่ยงสาเหตุนั้นๆ ฉะนั้นการแก้ไขไม่ให้แพ้หลายอย่างหรือมีอาการมากขึ้น คือต้องพยายามหลีกเลี่ยงเหตุหรือสารก่อภูมิแพ้ที่กระตุ้นทำให้เกิดอาการมากขึ้น ร่วมกับการทำร่างกายให้แข็งแรง เพื่อให้อาการแพ้ต่างๆ ลดลงได้ นั่นคือการออกกำลังกายสม่ำเสมอ

แต่อย่างไรก็ตาม หากใครมีอาการภูมิแพ้เรื้อรัง และไม่ได้ดูแลร่างกายให้ห่างไกลจากสารก่อภูมิแพ้ หรือหมั่นรักษาและบรรเทาอาการภูมิแพ้ไม่ให้กำเริบหรือรุนแรงบ่อยๆ อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากโรคภูมิแพ้จมูก ได้หลายโรคซึ่งอาจรบกวนการทำงานและมีอันตรายถึงชีวิตได้ นั่นคือ ภาวะจากโรคหูชั้นกลางอักเสบ โรคหืด  ไอเรื้อรัง  เจ็บคอเรื้อรัง  ไซนัสอักเสบ ริดสีดวงจมูก นอนกรนและหรือ ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ  ฉะนั้นสิ่งสำคัญของการป้องกันอาการภูมิแพ้ คือการพยายามดูแลตัวเองให้มีสุขภาพแข็งแรง และป้องกันสารก่อภูมิแพ้ไม่ให้เข้าสู่ร่างกายได้ง่าย เพื่อไม่ให้อาการแพ้ต่างๆ ทั้ง จาม มีน้ำมูกไหล และคัดแน่นจมูกเกิดขึ้นได้นั่นเอง

7 ไอเทมสำคัญ ป้องกันสารก่อภูมิแพ้

เพื่อไม่ให้อาการภูมิแพ้ คัดแน่นจมูก น้ำมูกไหล เกิดกับคุณได้ทุกวันซ้ำๆซากๆ  เราจึงอยากแนะนำให้คนที่เป็นภูมิแพ้มี 7 อุปกรณ์สำคัญที่ควรจะมีไว้ประจำบ้านหรือหากสามารถพกพาติดตัวได้ก็ต้องมีไว้ในกระเป๋าจะได้ใช้เป็นเครื่องมือในการป้องกันตัวเองไม่ให้มีอาการแพ้กำเริบหรือรุนแรงได้  นั่นคือ

1. สเปรย์พ่นจมูกชนิดผง

นาซัลลีซ อัลเลอจี บลอคเกอร์ ( Nasaleze Allergy Blocker) นวัตกรรมใหม่จากประเทศอังกฤษ ที่สามารถป้องกันสารก่อภูมิแพ้ไม่ให้เข้าจมูก และระบบทางเดินหายใจได้ดี ด้วยคุณสมบัติพิเศษจากธรรมชาติเพื่อป้องกันสารก่อภูมิแพ้ต่างๆ ดังนี้

• ผลิตจากสารสกัดธรรมชาติ ได้แก่ HPMC (ผงเซลลูโลส) 98.5% และ ผงเปเปอร์มินท์ 1.5% ที่มีความอ่อนโยนและปลอดภัย  สามารถใช้เสริมร่วมกับยาพ่นจมูก เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพยาพ่นจมูก ลดอาการแพ้ได้
• ทำงานโดยเปลี่ยนผงสเปรย์ให้เป็นเจลในโพรงจมูก เพื่อดักจับและป้องกันไม่ให้สารก่อภูมิแพ้ในอากาศเข้าสู่เยื่อบุโพรงจมูก จนเกิดอาการภูมิแพ้จมูกหรือแพ้อากาศได้
• ช่วยลดการแตกตัวของแกรนูลในแมสเซลล์ การหลั่งอิมมูโนโกลบูลินอีและฮีสตามีน ทำให้สามารถป้องกันการเกิดอาการภูมิแพ้หรือแพ้อากาศได้
• ผ่านการทดสอบทางคลินิกและมีผลการศึกษามากกว่า 30 การศึกษา ยืนยันประสิทธิภาพในการลดอาการจาม คัดจมูก น้ำมูกไหล สามารถป้องกันไม่ให้สารก่อภูมิแพ้ในอากาศเข้าสู่เยื่อบุโพรงจมูก ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการภูมิแพ้หรือแพ้
• มีผลการศึกษายืนยันประสิทธิภาพในการลดอาการจาม คัดจมูก น้ำมูกไหล เป็นตัวเดียวที่ทางสมาคมโรคภูมิแพ้แห่งสหรัฐอเมริกา (American Academy of Allergy Asthma & Immunology) ได้ระบุว่าเป็นตัวป้องกันสารก่อภูมิแพ้ (Allergen blocker) ได้
• มีความปลอดภัยสูง ใช้ได้ในเด็กอายุตั้งแต่ 18 เดือนขึ้นไป ผู้สูงวัย คุณแม่ตั้งครรภ์ คุณแม่ให้นมบุตร
• ไม่มีส่วนผสมของยา ไม่มีผลข้างเคียง ไม่มีฤทธิ์ทำให้ง่วงนอน ผ่านการจดทะเบียนจาก อย.
• ออกฤทธิ์เร็วภายใน 2 นาที พ่นเพียง 1 ครั้ง สามารถป้องกันไม่ให้สารก่อภูมิแพ้ในอากาศเข้าสู่เยื่อบุโพรงจมูกได้นานถึง 6 ชั่วโมง
• หากพ่นวันละ 2-3 ครั้ง หรือทุก 6-8 ชั่วโมง จะมีประสิทธิภาพป้องกันสารก่อภูมิแพ้ในอากาศเข้าสู่จมูกได้ตลอดทั้งวัน แถมยังพกพาง่าย ติดตัวไปใช้ได้ทุกที่
• ใช้ง่าย เพียงเปิดฝา เขย่าขวด และบีบพ่นผงเข้าไปในรูจมูกทั้ง 2 ข้าง ข้างละ 1-2 ครั้ง แล้วสูดหายใจเข้า จะช่วยให้ร่างกายมีเกราะป้องกันสารก่อภูมิแพ้ได้ทันที

2. หน้ากากอนามัย ทั้งหน้ากากอนามัยแบบใช้แล้วทิ้ง หรือหน้ากากอนามัยแบบผ้า ที่จำเป็นต้อง

สวมใส่ไว้เสมอ เพราะนอกจากจะช่วยป้องกันละอองฝุ่น จากโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ โควิด19 ฝุ่นพิษและมลพิษได้แล้ว  ยังช่วยลดอาการแพ้และป้องกันสารก่อภูมิแพ้ได้ด้วย ซึ่งสำหรับคนที่เป็นภูมิแพ้แนะนำว่าแม้เวลาจะอยู่ในบ้าน ก็ควรจะใส่หน้ากากอนามัยเพราะร่างกายยังเสี่ยงต่อสารก่อภูมิแพ้ต่างๆ ที่เรามองไม่เห็นอยู่เช่น ไรฝุ่น ฝุ่น  ขนสัตว์ หรือเชื้อราในบ้าน  โดยเฉพาะตอนทำความสะอาดบ้าน ควรต้องใส่หน้ากากอนามัย ยิ่งเวลาออกนอกบ้านยิ่งมีสารก่อภูมิแพ้ภายนอกบ้านอีกมากมาย ฉะนั้นการใส่หน้ากากอนามัยไว้จะช่วยป้องกันได้ขั้นต้น

3. เครื่องดูดฝุ่น เครื่องดูดไรฝุ่น การใช้เครื่องดูดฝุ่น จะช่วยดูดฝุ่นละอองขนาดเล็ก และสารก่อ

ภูมิแพ้ที่มองไม่เห็นให้ลดปริมาณลงได้มากทีเดียว เพราะการกวาดจะยิ่งทำให้ฝุ่นหรือสารก่อภูมิแพ้ฟุ้งในอากาศ เสี่ยงต่อการหายใจเข้าไปจนแพ้ได้อีก ฉะนั้นการดูดฝุ่นจะช่วยกำจัดละอองฝุ่น ไรฝุ่น ขนสัตว์ที่มีขนาดเล็กได้ดี ช่วยลดสารก่อภูมิแพ้ต่างๆ ในบ้านได้  นอกจากนี้ปัจจุบันยังมีเครื่องดูดไรฝุ่นโดยเฉพาะ ที่สามารถดูดไรฝุ่นบนที่นอนและเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ในบ้านได้ โดยแนะนำให้หาข้อมูลเลือกดูยี่ห้อที่สามารถดูดไรฝุ่นได้จริง เพื่อการใช้งานในการลดหรือกำจัดสารก่อภูมิแพ้ในบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ  

     4. เครื่องฟอกอากาศ  เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือจำเป็นในการช่วยฟอกอากาศ กรองอากาศและกำจัด

อากาศเสียอันเป็นเหตุของภูมิแพ้ในปัจจุบัน ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายแบบ ทั้งยังมีชนิดที่สามารถกำจัดหรือลดจำนวนเชื้อไวรัสหรือเชื้อโรคได้อีกด้วย ดังนั้นก่อนซื้อควรพิจารณาการใช้งานที่ต้องการ ขนาดห้องกับเครื่องฟอกอากาศที่เหมาะสม เพื่อจะได้ช่วยฟอกอากาศให้เราได้หายใจอากาศที่ปลอดจากสารก่อภูมิแพ้หรืออันตรายต่างๆ ได้อย่างมีคุณภาพจริง

5. น้ำเกลือ หรือน้ำยาล้างจมูก และอุปกรณ์ล้างจมูก อุปกรณ์เหล่านี้จะช่วยลดปริมาณสารก่อ

ภูมิแพ้ และกำจัดสิ่งสกปรกในจมูกได้ในบางส่วน หลังจากที่เราเดินทางหรือต้องเผชิญกับอากาศเสีย และอาจมีสารก่อภูมิแพ้ติดมาในจมูก จนทำให้มีอาการภูมิแพ้ไม่หาย ฉะนั้นหากทำได้ควรล้างจมูกบ่อยๆ เพื่อจะได้ชำระล้างสิ่งสกปรกและลดอาการระคายเคืองหรือแพ้ให้ลดลง

6. ยาแก้แพ้ ยาพ่นจมูก ทั้งยาแก้แพ้ และยาพ่นจมูก ถือเป็นสองตัวยาสำคัญ ที่บรรเทา

อาการแพ้ไม่ให้กำเริบจนรุนแรงลุกลามหรือเป็นอันตรายได้ ซึ่งยาแก้แพ้บางชนิดอาจทำให้ร่างกายมีอาการง่วงหรือซึม ก่อนใช้จึงต้องระมัดระวังในการขับขี่หรือทำงานใช้เครื่องจักร ส่วนในเรื่องผลเสียของการใช้ยาแก้แพ้ไปนานๆ ติดต่อกันเป็นเดือนนั้นไม่มีผลเสียต่อร่างกาย ถ้าผู้ป่วยที่เป็นภูมิแพ้มีการทำงานของตับและไตที่ปกติ เพราะยาแก้แพ้จะถูกกำจัดออกจากร่างกายโดยผ่านตับและไต แต่ถ้าตับและไตทำงานผิดปกติ อาจมีการสะสมของยาในร่างกายได้ แต่การใช้ยาแก้แพ้ไปนานๆ เป็นการรักษาที่ปลายเหตุ เมื่อหยุดใช้ยาแก้แพ้ และคนป่วยภูมิแพ้ไม่ได้ไปแก้ที่สาเหตุ เช่น การกำจัดหรือป้องกันสารก่อภูมิแพ้เข้าร่างกาย อาการของโรคก็จะกลับมาเป็นใหม่ได้อีก

ส่วนยาพ่นจมูกที่ใช้แล้วจมูกโล่งทันที ก็มีข้อจำกัดและมีผลข้างเคียง โดยอาจเกิดเยื่อบุจมูกอักเสบและบวม จากการใช้ยาหดหลอดเลือดชนิดพ่นจมูกนานเกินไป ปกติแพทย์จะแนะนำให้ใช้ยาดังกล่าวไม่เกิน 7 – 10 วัน เพราะยาจะทำให้เส้นเลือดของเยื่อบุจมูกหดตัว ส่งผลให้เยื่อบุจมูกยุบบวม แต่หากใช้ไปนานๆ เส้นเลือดของเยื่อบุจมูกที่เคยหดตัว จะกลับมาขยายตัว ส่งผลให้เยื่อบุจมูกกลับมาบวมใหม่ เกิดอาการคัดจมูกตามมาได้อีกด้วย

7. วิตามินซี เป็นกลุ่มของสารอาหารที่สำคัญต่อร่างกายเพราะมีส่วนช่วยในการป้องกันการหลั่งฮีสตา

มีน ซึ่งเป็นสารตัวสำคัญที่ร่างกายสร้างขึ้นและทำให้เกิดอาการภูมิแพ้  ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานให้ร่างกายมีความแข็งแรง ต่อสู้เชื้อโรคได้มากขึ้น  ซึ่งแหล่งอาหารที่มีวิตามินซีสูงได้แก่ ผักใบเขียว เช่น ตำลึง ผักโขม บร็อคโคลี กะหล่ำปลี ในผลไม้รสเปรี้ยว เช่น สับปะรด ส้ม สตรอเบอรี่ มะนาว หรืออาจเป็นวิตามินซีสกัดต่างๆ ที่ควรเลือกรับประทานในแบบที่ผ่านมาตรฐาน มีอย.และปลอดภัยต่อสุขภาพ

ลดใช้สเตียรอยด์ หยุดภูมิแพ้ แก้ด้วยสเปรย์พ่นจมูก

หากลูกเป็นโรคภูมิแพ้จมูก มีอาการจาม น้ำมูกไหลเป็นประจำไม่หายสักที จึงจำเป็นต้องมีการใช้ยาสเตียรอยด์  แต่การใช้ยาสเตียรอยด์ในเด็กต้องมีความระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากอาจมีผลเสียต่อร่างกาย ฉะนั้นจะดีกว่าไหม หากเราไม่เอายาสเตียรอยด์เข้าไปในร่างกายลูก แล้วใช้วิธีสร้างเกราะป้องกันสารก่อภูมิแพ้ให้ลูกอย่างปลอดภัยด้วยสเปรย์พ่นจมูกชนิดผง ที่สกัดจากธรรมชาติที่ไม่มีผลเสียต่อร่างกาย แถมยังช่วยไม่ให้อาการภูมิแพ้จมูกของลูกกำเริบได้ด้วย

นาซัลลีซ อัลเลอจี บลอคเกอร์ ใช้สำหรับป้องกันการเกิดอาการภูมิแพ้หรือแพ้อากาศ ดังนั้นควรเริ่มใช้ นาซัลลีซ อัลเลอจี บลอคเกอร์ก่อนที่จะสัมผัสสารก่อภูมิแพ้เพื่อป้องกันไม่ให้สารก่อภูมิแพ้ในอากาศเข้าสู่เยื่อบุโพรงจมูก ไปกระตุ้นให้เกิดอาการแพ้ต่างๆ นาซัลลีซ อัลเลอจี บลอคเกอร์ได้รับการพิสูจน์จากงานวิจัยทางคลินิก พบว่ามีประสิทธิภาพดีในกลุ่มผู้ป่วยโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ชนิดมีความรุนแรงน้อยถึงปานกลาง

นาซัลลีซ อัลเลอจี บลอคเกอร์ใช้เพื่อป้องกันอาการแพ้ก่อนเริ่มมีอาการ จึงไม่เหมือนยาที่ช่วยบรรเทาอาการ สามารถใช้ในการรักษาร่วมกับยา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาโรคภูมิแพ้หรือการแพ้อากาศ

ในกรณีที่ต้องใช้ยาพ่นทางจมูกอื่นร่วมด้วย ให้ใช้นาซัลลีซ อัลเลอจี บลอคเกอร์ภายหลังจากการใช้ยาพ่นจมูกอื่น เพื่อไม่ไห้เจลที่ดักจับในโพรงจมูกถูกทำลาย

เพื่อป้องกันโรคภูมิแพ้หรือการแพ้อากาศ ให้บีบพ่นนาซัลลีซ อัลเลอจี บลอคเกอร์วันละ 2-3 ครั้ง เพื่อให้ประสิทธิภาพการป้องกันสารก่อภูมิแพ้ในอากาศเข้าสู่เยื่อบุโพรงจมูกคงอยู่ตลอด

จากการศึกษาวิจัยพบว่า นาซัลลีซ อัลเลอจี บลอคเกอร์ สามารถป้องกันไม่ให้สารก่อภูมิแพ้ในอากาศเข้าสู่เยื่อบุโพรงจมูกได้นานถึง 6 ชั่วโมง ต่อการบีบพ่น 1 ครั้ง* (Diethart/Emberlin Invitro study)

นาซัลลีซ อัลเลอจี บลอคเกอร์ เป็นตัวเดียวที่ทางสมาคมโรคภูมิแพ้แห่งสหรัฐอเมริกา (American Academy of Allergy Asthma & Immunology) ได้ระบุว่าเป็นตัวป้องกันสารก่อภูมิแพ้ (Allergen blocker) ได้