content-resize-1000x600-5content-resize-1000x600-5

ใส่หน้ากากที่ “จมูก” หยุดไวรัสที่ด่านหน้า

“อิสราเอลติดโควิดเกือบ 1.1 หมื่นคน แม้ฉีดไฟเซอร์ครบแล้ว 2 เข็ม ถึง 60%

“ประเทศสิงคโปร์ พบคนที่ฉีดวัคซีนแล้วติดโควิด-19 ถึง 3 ใน 4 ของยอดติดเชื้อใหม่ “

“ศบค.เผยฉีดวัคซีน 2 เข็มก็ยังติดโควิดได้ “

เห็นไหมว่า ทั้งข่าวจากต่างประเทศ ข่าวในประเทศ และตัวเลขผู้ติดเชื้อในไทย ยังอยู่ระดับที่ไม่ใช่น้อย จนเรียกได้ว่าสถานการณ์โควิดยังเลวร้ายอยู่ แต่เมื่อทุกคนต้องเดินหน้าทำมาหากินต่อไป แม้จะเสี่ยงกับโรคภัยก็จำเป็น เราจึงต้องฝากคำเตือนให้ทุกคนอย่าการ์ดตก แล้วหาตัวช่วยป้องกันเชื้อโรคร้ายติดตัวไว้ เพื่อให้เราป้องกันและมีสุขภาพที่ดีได้แม้เจอภัยโควิด

 

รู้ใช่ไหม? …ใส่หน้ากาก ฉีดวัคซีนก็ยังติดเชื้อได้

จากข่าวต่างๆ ที่ออกมาทำให้เห็นแล้วว่าแม้คนที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 ครบแล้วทั้งสองเข็ม ที่สำคัญยังเป็นวัคซีนที่เชื่อกันว่ามีประสิทธิภาพที่ดี ก็ยังสามารถติดเชื้อโควิดได้ นั่นก็เป็นสิ่งที่ยืนยันว่า การฉีดวัคซีนไม่ได้ป้องกันการติดเชื้อได้มากสักเท่าไร แต่สิ่งสำคัญคือวัคซีนจะช่วยป้องกันไม่ให้มีอาการรุนแรง ป้องกันการเสียชีวิตให้น้อยลงหากมีการติดเชื้อโควิด  แต่จะดีกว่าไหมหากเราป้องกันตัวเองอย่างดีจนไม่ติดเชื้อป่วย เพราะหากติดเชื้อโควิดแม้จะไม่ตายแต่ก็ทำให้ต้องเจ็บป่วยอยู่หลายวัน ที่สำคัญคือมีอาการ Long Covid หรืออาการไม่สบายที่หลงเหลือหลังติดเชื้อไวรัสโควิด ที่ทำให้ร่างกายเจ็บไข้ได้ต่อเนื่อง  ซึ่งเรื่องวัคซีนนี้มีข้อมูลน่าสนใจจากนักคณิตศาสตร์ที่วิเคราะห์ตัวเลขแบบจำลองโควิดแล้วชี้แจงไว้ว่า 

(Long Covid เป็นภาวะหรืออาการที่เกิดขึ้นกับผู้ป่วยโควิด-19 หลังจากได้รับเชื้อนาน 4 สัปดาห์ไปจนถึง 12 สัปดาห์ขึ้นไป อาการที่พบมีหลากหลายและแตกต่างกัน อาการที่พบบ่อยที่สุด มีตั้งแต่ไม่รุนแรงจนถึงทำให้ร่างกายทรุดโทรม และมีผลระยะยาวตั้งแต่หลายสัปดาห์จนถึงหลายเดือนหลังหายจากโควิด-19 โดยอาการที่พบมากที่สุด คือ เหนื่อยล้าอ่อนเพลีย ปวดศีรษะ สมาธิสั้น ผมร่วง หายใจลำบาก หายใจไม่อิ่ม การรับรสชาดและการรับกลิ่นเปลี่ยนไป เจ็บหน้าอก หายใจถี่ ปวดตามข้อ ไอ ท้องร่วง กล้ามเนื้ออ่อนแรง มีภาวะสมองล้า นอนไม่หลับ ความดันโลหิตสูง วิตกกังวล ซึมเศร้า หรือโรคเครียดหลังผ่านเหตุการณ์ร้ายแรง  (Post-Traumatic Stress Disorder) สามารถพบอาการของ Long COVID ในผู้ป่วยนอก 35 % และผู้ป่วยใน  87% โดยอาการที่เกิดขึ้นอาจยาวนานถึง 3 เดือนขึ้นไป ที่มา : https://www.sikarin.com/health/covid19/long-covid)

ฉีดวัคซีนแล้วติดโควิด มักไม่มีอาการ…ยิ่งแพร่เชื้อง่าย!!

สังเกตดีๆ จะเห็นว่าแม้ในประเทศที่ฉีดวัคซีนไปแล้วซักระยะ ฉีดให้ประชาชนไปมากแล้ว ก็ยังมีอัตราการติดสูงอยู่ สาเหตุเกิดจาก  

  • การกลายพันธุ์ของเชื้อโรค โดยเฉพาะสายพันธุ์เดลต้า
  • คนฉีดวัคซีนแล้วติดเชื้อ มักจะไม่แสดงอาการ เห็นได้ง่ายจากสถิติตอนนี้ส่วนใหญ่คนที่ติดเชื้อจำนวนมากมักจะไม่แสดงอาการ
  • เมื่อคนติดเชื้อไม่มีอาการ จะใช้ชีวิตเหมือนคนปกติทุกอย่าง ไม่ไอ ดมกลิ่นได้ปกติ อาจจะมีรู้สึกเจ็บคอบ้าง เหมือนคนปกติทั่วไป แต่คนกลุ่มนี้นี่เองที่มีโอกาสไปแพร่ต่อให้คนอื่นได้อีกเรื่อยๆ โดยไม่รู้ตัว
  • คนติดเชื้อไม่รู้ต้ว คนแพร่เชื้อก็ไม่รู้ แล้วยิ่งหากไปแพร่ให้คนที่ฉีดวัคซีนแล้วอีก ก็จะกลายเป็นการกระจายเชื้อต่อไปมากยิ่งขึ้น  ยกเว้นกรณีแพร่ไปยังคนที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนก็จะทำให้คนกลุ่มหลังเกิดอาการรุนแรงได้
  • คนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน ส่วนใหญ่จะคิดว่าคนที่ฉีดวัคซีนแล้วปลอดภัย เข้าใกล้ได้ หายห่วง และยิ่งถ้าคนกลุ่มนั้นไม่ได้แสดงอาการอะไรจากการติดเชื้อมาเพราะฉีดวัคซีนมาแล้วด้วย จึงทำให้คนที่ไม่รู้วางใจ คิดว่าเขาฉีดวัคซีนแล้วคงไม่ติดเชื้อ จนต่างคนต่างประมาท ทำให้ติดเชื้อจากกลุ่มคนพวกนี้ได้ง่าย โดยเฉพาะคนที่ฉีดวัคซีนไปแล้วด้วยกันเองก็จะติดกันเอง (แบบที่ไม่แสดงอาการ) ได้ง่ายยิ่งขึ้น
  • และยิ่งคนที่ฉีดวัคซีนเริ่มมีมากขึ้นในประเทศเท่าไร คนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนก็จะมีความเสี่ยงจากการติดเชื้อมากทวีคูณขึ้นเท่านั้น เพราะไม่สามารถตอบได้ว่าคนรอบข้างใกล้ตัวนั้นติดโควิดมาหรือไม่
  • คนที่ฉีดวัคซีนไปแล้ว มักออกเดินทางไปทำงานหรือไปประชุมบ้าง หรือออกไปจ่ายตลาดโดยไม่กังวลหรือกลัวอะไร เพราะคิดว่าฉีดวัคซีนแล้ว

แม้ในต่างประเทศเอง เช่น อเมริกาและอังกฤษ ซึ่งก็ยังมีตัวเลขของการติดเชื้อและแพร่เชื้อให้เห็นตลอด ยิ่งฉีดวัคซีนมากขึ้นเท่าไร คนที่ฉีดวัคซีนแล้ว (โดยเฉพาะยังไม่ครบ 2 โดส + 1 เดือนรอภูมิขึ้น) ก็จะยิ่งมีโอกาสในการแพร่เชื้อกันมากขึ้นเป็นลูกโซ่ต่อไป แม้แต่คนที่ใส่ทั้งหน้ากากอนามัยและฉีดวัคซีนแล้วก็ยังไม่รอด

สาเหตุการของติดโควิดแม้ว่าจะฉีดวัคซีนแล้ว อาจเกิดจากภูมิคุ้มกันค่อยๆเพิ่มไม่เท่ากัน ระยะเวลาหลังจากที่ได้รับวัคซีน โดยทั่วไปต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์หลังจากที่ได้รับเข็มสุดท้ายตามกำหนด จึงจะเริ่มมีภูมิคุ้มกันขึ้นมาเพียงพอสำหรับป้องกันการติดเชื้อ บางคนรับวัคซีนเพียงเข็มเดียว ทั้งที่วัคซีนตัวนั้นกำหนดให้รับสองเข็ม แต่ไปรับเชื้อขึ้นมาก่อน ทำให้ร่างกายยังไม่สามารถสร้างภูมิคุ้มกันที่เพียงพอ โดยมีรายงานจาก Centers for Disease Control and Prevention (CDC) ว่าวัคซีนของไฟเซอร์ หรือโมเดอร์นา มีประสิทธิภาพป้องกันได้ร้อยละ 80 หลังจากเข็มแรก ขณะที่ถ้าครบสองเข็มจะป้องกันได้ร้อยละ 90 วัคซีนแต่ละชนิดอาจมีระยะเวลาที่ภูมิคุ้มกันขึ้นและเพียงพอสำหรับการป้องกันที่แตกต่างกันไป ทำให้บางรายต้องมีการฉีดวัคซีนซ้ำเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้อยู่ได้ยาวนานขึ้น ในอีกมุมหนึ่ง คือการกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้วัคซีนบางชนิดซึ่งใช้เชื้อโควิด-19 ที่ยังไม่ได้กลายพันธุ์ในการทำวัคซีน ทำให้การป้องกันเชื้อโควิด-19 บางสายพันธุ์ เช่น สายพันธุ์อังกฤษ หรือ สายพันธุ์อินเดีย ไม่ได้ประสิทธิภาพ

วิธีป้องกันที่ดีที่สุด คือ การฉีดวัคซีนให้ได้เร็วที่สุด ฉีดเข็มสองตามที่นัดไว้ ระหว่างรอฉีดเข็มที่สองยังคงระมัดระวังตัวเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน ล้างมือบ่อยๆ รักษาระยะห่างจากคนอื่น กินร้อนช้อนตัวเอง หลีกเลี่ยงการไปแหล่งชุมชนคนเยอะๆ หากสัมผัสสิ่งของสาธารณะ ควรล้างมือหรือใส้เจล/สเปรย์แอลกอฮอล์ทันทีก่อนนำมือมาสัมผัสกับส่วนอื่นๆ ของร่างกาย หรือหยิบอาหารเข้าปาก ออกกำลังกายและนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ เท่านี้ก็จะช่วยลดความเสี่ยงในการติดโควิด-19 ได้ ไม่ว่าจะฉีดวัคซีนชนิดใดก็ตาม (ที่มา : https://www.sanook.com/health/30153/)

Traveler-Travel-Product-FDA-02042021-4

ฉะนั้นจึงขอให้ทุกคนอย่าวางใจแม้กับคนในบ้าน ต้องระมัดระวังตัวเองตลอดเวลา ยิ่งเวลาออกนอกบ้านมีความเสี่ยงมาก จำเป็นต้องมีเครื่องมือสำคัญเพื่อป้องกันระวังตัวเองไว้ให้มั่นใจตลอดเวลา  ด้วยการสร้างเกราะกันภัยไวรัสที่จมูกอีกชั้นเพื่อป้องกันเชื้อโรค 

“สเปรย์พ่นจมูกชนิดผง” เกราะชั้นดีเหมือนมีหน้ากากที่มองไม่เห็น

สเปรย์พ่นจมูกชนิดผง ตัวช่วยสำคัญที่ทำให้ทุกคนในครอบครัวเสมือนใส่หน้ากากที่จมูกป้องกันไวรัสที่ด่านแรกไว้ ก่อนใส่หน้ากากอนามัยและเดินทาง

  • เพิ่มเกราะเสริมการ์ดสูงให้จมูกตลอดวัน ด้วยคุณสมบัติเปลี่ยนผงสเปรย์เป็นเจลในโพรงจมูก ดักจับและป้องกันเชื้อไวรัส ที่แพร่กระจายในอากาศ ไม่ให้เข้าสู่เยื่อบุโพรงจมูก
  • ลดจำนวนเชื้อไวรัส ลดเสี่ยงติดเชื้อ ทำให้ไวรัสมีฤทธิ์อ่อนลง
  • ผลิตจากสารสกัดจากธรรมชาติ HPMC หรือผงเซลลูโลส Garlic powder และ Peppermint powder
  • ป้องกันไวรัสที่แพร่ในอากาศขณะเดินทาง ป้องกันหวัด และการติดเชื้อทางเดินหายใจ ลดอาการรุนแรงและเวลาในการป่วยและการรักษาไข้หวัด และไข้หวัดใหญ่ได้
  • มีผลการศึกษายืนยัน ผ่านการทดสอบทางคลินิก ว่าช่วยป้องกันการติดเชื้อทางเดินหายใจได้ 
  • ไม่มีส่วนผสมของยา ไม่มีผลข้างเคียง
  • อ่อนโยน ปลอดภัยใช้ได้ในเด็กอายุ 3 ปีขึ้นไป ผู้สูงวัย คุณแม่ตั้งครรภ์และให้นมบุตร
  • พ่น 1 ครั้ง ออกฤทธิ์นาน 6 ชั่วโมง/คร้ัง เพียงพ่นวันละ 2-3 ก็ป้องกันไวรัสได้ทั้งวัน
  • ใช้ง่ายแค่ เปิดฝา- เขย่า -พ่นจมูกข้างละ 1-2 ครั้ง – เช็ดทำความสะอาด
  • ผลิตในประเทศอังกฤษ นิยมใช้กว่า 50 ประเทศ  ด้วยยอดขาย 20 ล้านขวด
  • ควรใช้ทั้งอยู่ในบ้านและก่อนออกนอกบ้าน ช่วยให้มั่นใจว่าป้องกันไวรัสได้ ปลอดภัยเวลาที่ถอดๆ ใส่ๆ หน้ากากอนามัย เมื่อต้องถอดหน้ากากอนามัยกินข้าวหรือหน้ากากเผลอหลุด เพราะเราได้เคลือบเกราะที่จมูกไว้หนึ่งชั้นแล้ว  
  • ไม่มีส่วนผสมของน้ำเกลือ ไม่ได้ใช้ล้างจมูก แต่มีคุณภาพช่วยเคลือบจมูกป้องกันไวรัส
  • ผ่าน อย. มีเลขที่ใบอนุญาตโฆษณา และมีเอกสารรับรองการจดทะเบียน

Ref.

https://www.matichon.co.th/foreign/news_2916649

https://www.pptvhd36.com/news/%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8/152466

https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/953689

https://www.prachachat.net/finance/news-734986


#ติดเชื้อทางเดินหายใจ #หวัด #ไข้หวัดใหญ่

#หวัดป้องกันได้ #เชื้อโรคลอยในอากาศ

#นาซัลลีซ #สเปรย์พ่นจมูก #ไม่ใช่ยา #ดักจับเชื้อโรค

#นาซัลลีซทราเวล #ExtraProtection #Germblocker #Invisible_mask #ป้องกันดีกว่ารักษา

 

ปรึกษาหรือสอบถามรายละเอียดสินค้า

Line : @nasaleze (มี@ ด้านหน้าด้วยนะคะ) หรือ คลิก https://lin.ee/Iy3ufdh

☎โทร : 02-287-4956

 

ตะกร้า
เริ่มพิมพ์เพื่อดูสินค้าที่คุณกำลังมองหา