เคยรู้บ้างไหมว่า..บ้านที่คุณอยู่! อากาศรอบตัวที่คุณหายใจ! มีฝุ่น PM2.5 และมลพิษร้ายแค่ไหน? วันนี้เราจึงชวนทุกคนไปเช็กสภาพอากาศว่าพื้นที่หรือจังหวัดที่เราอยู่มีอากาศเลวร้ายหรือดีอย่างไร เพื่อจะได้รีบหาวิธีป้องกันฝุ่นพิษและอากาศเสียที่ทำร้ายสุขภาพตัวเราและครอบครัวได้ทันท่วงที ไม่มีเจ็บป่วย

อากาศประเทศไทย คุณภาพน่าห่วง

            ในฤดูหนาวและช่วงสิ้นปี ถือเป็นช่วงเวลาที่ประเทศไทยกำลังเผชิญกับฝุ่น PM 2.5 หมอกควัน และมลพิษร้ายในอากาศกันค่อนข้างมาก ทั้งจากอากาศปิดไม่มีฝนชะล้าง ควันจากการเผาที่นาหรือการเกษตร รวมกับมลพิษในอากาศที่เกิดจากควันและไอเสียของรถยนต์บนท้องถนน ทำให้อากาศเสียเหล่านี้หมุนเวียนอยู่รอบตัวเราได้ง่ายตลอดเวลา  และรู้ไหมว่าประเทศไทยถูกจัดอันดับเป็นประเทศที่มีคุณภาพอากาศที่แย่ขนาดไหนในในโลก 

ข้อมูลการจัดอันดับในปี 2020 ให้ประเทศที่มีคุณภาพอากาศแย่ที่สุด  ได้แก่

อันดับ 1.บังคลาเทศ

อันดับ 2.ปากีสถาน

อันดับ 3. อินเดีย

อันดับ 4.มองโกเลีย

อันดับ 5.อัฟกานิสถาน

อันดับ 6.โอมาน

อันดับ 7.กาตาร์

อันดับ 8.คีร์กีซสถาน

อันดับ 9.อินโดนีเซีย

อันดับ 10. บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา

ส่วนประเทศไทย โดยเฉลี่ยจะมีความเข้มข้นของ PM2.5 ในอากาศ มากกว่าค่าแนวทางคุณภาพอากาศประจำปีขององค์การอนามัยโลกถึง 4.3 เท่า จัดว่าเป็นประเทศที่มีคุณภาพอากาศแย่ในลำดับที่ 34 ในบรรดา 106 ประเทศที่มีข้อมูล ถือว่าอยู่ในลำดับต้นๆ สูงกว่าครึ่งซะอีก แสดงว่าเรากำลังอยู่ท่ามกลางอากาศเสียที่มีผลต่อสุขภาพอย่างมาก  ฉะนั้นการเป็นประเทศที่เน้นทำการเกษตร มีการเพาะปลูกมาก ไม่ได้บอกว่าจะมีอากาศที่ดีได้ คราวนี้มาดูกันว่าในประเทศไทยตอนนี้ 10 เมืองหรือ 10 จังหวัดไหนที่มีอันดับฝุ่นพิษ PM2.5 ร้ายและมลพิษสูง

 ข้อมูลในเดือนพฤศจิกายน  (วันที่ 29 พฤศจิกายน 2564) อันดับเมืองที่มีมลพิษมากที่สุดของไทย 10 อันดับ นั่นคือ

1. อ.พระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ
2. อ.เฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี
3. อ.สามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
4. อ.นครชัยศรี จังหวัดนครปฐม
5. เขตลาดกระบัง กรุงเทพ
6. อ.ศรีสวัสดิ์ กาญจนบุรี
7. เขตคลองสามวา กรุงเทพ
8. เขตหนองแขม กรุงเทพ
9. เขตภาษีเจริญ กรุงเทพ
10. เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพ

อากาศแย่วันหน้าอาจอยู่ที่จังหวัดบ้านคุณ  รีบป้องกันฝุ่น PM 2.5 วันนี้!

รู้หรือไม่ว่าเจ้าฝุ่น PM2.5 นี้ทำอันตรายต่อสุขภาพได้หลายด้าน โดยองค์กรอนามัยโลกกำหนดให้ PM 2.5 อยู่ในกลุ่มที่ 1 ของสารก่อมะเร็ง ตั้งแต่ปี 2556 เป็นสาเหตุ 1 ใน 8 ของประชากรโลกเสียชีวิตก่อนวัยอันควร เพิ่มความเสี่ยงโรคเรื้อรัง เช่น โรคหลอดเลือดในสมอง โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคมะเร็งปอด โรคหัวใจขาดเลือด ,โรคติดเชื้อเฉียบพลันในระบบหายใจส่วนล่าง  ฉะนั้นเราต้องรู้ที่มาของฝุ่นพิษ PM2.5 แล้วป้องกันล่วงหน้าทันที

PM2.5 มาจากที่ไหน ?

1. สภาพอากาศเปลี่ยน ทำให้อากาศนิ่ง ลมน้อย ฝุ่นสะสมตัวได้มาก
2. ฝุ่นจากการจราจร เขม่าไอเสียรถยนต์
3. ฝุ่นจากงานก่อสร้าง ทั้งรถไฟฟ้า อุโมงค์ คอนโดมิเนียม ฯลฯ
4. ฝุ่นจากการเผาในที่โล่งแจ้ง เช่น เผาหญ้า
5. ฝุ่นจากการผลิตโดยภาคอุตสาหกรรม  

ไม่อยากปิดเรียน หยุดงาน ทำงานที่บ้านรีบต้านฝุ่นพิษ

            มีตัวอย่างให้เห็นแล้วกับข่าวล่าสุด ที่ประเทศอินเดียขณะนี้กำลังเผชิญกับฝุ่นพิษ PM2.5 และอากาศเลวร้ายอย่างหนักถึงกับต้องสั่งปิดสถานศึกษาและทำงานที่บ้าน โดยเมื่อวันที่  17 พ.ย. 64 เว็บไซต์อัลจาซีรารายงานว่าทางการกรุงนิวเดลี เมืองหลวงอินเดียประกาศสั่งปิดสถาบันการศึกษา โรงเรียน วิทยาลัยทุกแห่งในกรุงนิวเดลี เนื่องจากสถานการณ์มลพิษในอากาศ ค่าฝุ่น PM 2.5 เลวร้ายมากขึ้น จนอยู่ในขั้นเป็นอันตรายต่อสุขภาพ  นอกจากนั้น ทางการกรุงนิวเดลียังเรียกร้องให้ประชาชนควรทำงานอยู่ที่บ้าน หรือ Work from Home รวมทั้งยังสั่งห้ามรถบรรทุกขนส่งสินค้าที่ไม่มีความจำเป็นเข้ามาในกรุงนิวเดลีจนถึงวันที่ 21 พ.ย. อีกทั้ง โรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหิน 5 แห่ง รอบกรุงนิวเดลีก็ได้ถูกสั่งปิดชั่วคราว เพื่อบรรเทาวิกฤติมลพิษในอากาศ

เพราะตอนนี้สภาพอากาศและท้องฟ้าของกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดียง ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองใหญ่ระดับโลกนั้น มีมลพิษในอากาศเลวร้ายขั้นสุด ทั้งเมืองกำลังถูกปกคลุมด้วยหมอกหนาของฝุ่น PM 2.5 โดยมีค่าเฉลี่ยของอากาศเป็นพิษถึง 185-220 สหรัฐ AQI  ซึ่งในเมืองใหญ่นี้ก็มีที่พักอาศัยของประชาชนมากมายราว 20 ล้านคน  ทำให้ประชาชนเหล่านั้นเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสุขภาพจากฝุ่นพิษได้มากติดอันดับโลกได้ด้วย ซึ่งนอกจากกรุงนิวเดลีแล้ว ในมุมไบ โกลกาตา ก็มีค่าฝุ่นติดอันดับสูง 1 ใน 10 ของโลกในขณะนี้ด้วย   และไม่ใช่แค่ประเทศอินเดียเท่านั้น เพราะใกล้บ้านเราอย่างประเทศจีน ก็กำลังมีปัญหาสภาพอากาศเลวร้าย ทั้งในมณฑลอู่ฮั่น ปักกิ่ง และเสิ่นหยาง ตลอดจนนครฮานอยในเวียดนามก็เช่นกัน

อยู่ที่ไหนก็ไม่พ้นภัยฝุ่นพิษ ป้องกันวันนี้ด้วย “สเปรย์พ่นจมูก”

            ดูจากรายงานสภาพอากาศในบ้านเราแล้ว จะเห็นว่าอากาศเลวร้าย เปลี่ยนไปได้ทุกเมือง ทุกจังหวัด ฉะนั้นอย่ารอให้อากาศเสียมาถึงคิวจังหวัดบ้านเรา และอยู่ใกล้ตัวเราจนสูดหายใจเอาฝุ่นพิษร้ายเข้าไปจนเสียสุขภาพ   จึงขอแนะนำให้ทุกคนสร้างการ์ดที่จมูก หยุดฝุ่นพิษและสารมลพิษไม่ให้เข้าสู่ร่างกาย ด้วยสเปรย์พ่นจมูกชนิดผง นาซัลลีซ พีเอ็ม ชีลด์ (Nasaleze PM Shield) ไอเทมจำเป็นที่ต้องใช้ทุกวันก่อนออกนอกบ้าน

• ผลิตจากสารสกัดธรรมชาติ ผงเซลลูโลส (HPMC) 95% และผงเลม่อน 5% มีประสิทธิภาพช่วย

ดักจับและป้องกันฝุ่น PM 2.5 และสารมลพิษในอากาศต่างๆ ไม่ให้เข้าสู่เยื่อบุโพรงจมูกและทางเดินหายใจ

• ช่วยป้องกันฝุ่นและสารมลพิษ ด้วยการเปลี่ยนผงสเปรย์ให้เป็นเจลในโพรงจมูก เพื่อดักจับ ป้องกัน

ไม่ให้ฝุ่นละอองขนาดเล็ก ฝุ่น PM 2.5 สารมลพิษในอากาศเข้าในจมูก ไปสู่ระบบทางเดินหายใจในร่างกาย

• ผ่านการศึกษาและทดลองทางคลินิก มีประสิทธิภาพช่วยจับฝุ่น PM5 ได้ถึง 94% เป็น

ระยะเวลานานถึง 6 ชั่วโมง 

• ออกฤทธิ์ป้องกันเร็วภายใน 2 นาที ใช้ง่าย เพียงเปิดฝา เขย่าขวด บีบพ่นผงเข้าไปในรูจมูกทั้ง

2 ข้าง ก็สามารถป้องกันฝุ่น PM 2.5 และสารมลพิษเข้าสู่เยื่อบุโพรงจมูกได้ทันที  

• มีความอ่อนโยนและปลอดภัยสูง ไม่มีส่วนผสมของยา ไม่มีผลข้างเคียง ใช้ได้ในเด็กวัย

18 เดือนขึ้นไป ผู้สูงวัย คุณแม่ตั้งครรภ์และคุณแม่ให้นมบุตร

• คุ้มค่าพ่นเพียง 1 ครั้ง ออกฤทธิ์ดักจับฝุ่นและมลพิษได้นาน 6 ชั่วโมง พ่นวันละ 2-3 ครั้ง

หรือทุก 6-8 ชั่วโมง มีประสิทธิภาพช่วยป้องกันฝุ่น PM 2.5 สารมลพิษในอากาศเข้าสู่จมูกได้ตลอดวัน

• ผลิตในประเทศอังกฤษ นิยมใช้ในกว่า 50 ประเทศทั่วโลก มีเลขใบอนุญาตจาก อย.  
• ควรใช้สเปรย์พ่นจมูกก่อนออกจากบ้านทุกครั้ง หรือเมื่อต้องเข้าไปในบริเวณที่มีฝุ่น PM 5

สถานที่มีสารมลพิษในอากาศสูง และควรพกพาไว้ใช้ระหว่างวัน เพื่อความมั่นใจว่าจะห่างไกลจากฝุ่นละออง PM 2.5 และสารมลพิษร้ายได้ทุกวัน 

วิธีใช้นาซัลลีซ พีเอ็ม ชีลด์

 พ่นวันละ 2-3 ครั้ง หรือทุก 6-8 ชั่วโมง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันฝุ่น PM2.5 สารมลพิษในอากาศเข้าสู่เยื่อบุโพรงจมูก

นาซัลลีซ พีเอ็ม ชีลด์ เหมาะสำหรับผู้ใหญ่ สตรีมีครรภ์ สตรีให้นมบุตร และเด็กอายุตั้งแต่ 18 เดือนขึ้นไป

#Nasaleze #นาซัลลีซ #สเปรย์พ่นจมูกชนิดผง #NasalezePMShield #PM2.5
#สเปรย์พ่นจมูกดักจับฝุ่นขนาดเล็ก #MadeInEngland #ระวังของเลียนแบบ
#เพิ่มการ์ด #ExtraProtection #นวัตกรรมใหม่ #innovation #มลพิษ #อากาศเสีย
#ฝุ่นควัน #ควันท่อไอเสีย #pollution #วัณโรค #ปอดอักเสบ #เผาป่า #ไฟป่า

 

ปรึกษาหรือสอบถามรายละเอียดสินค้า

Line : @nasaleze (มี@ ด้านหน้าด้วยนะคะ) หรือ คลิก https://lin.ee/Iy3ufdh

Facebook : Nasaleze Thailand

โทร : 02-287-4956