กระทรวงสาธารณสุขถึงกับออกมาเตือนประชาชน ว่าช่วงต้นปีนี้จะมีฝุ่นรุนแรง แถมยังเตรียมพร้อมเปิดคลินิกมลพิษออนไลน์อีก แต่เชื่อว่าคงไม่มีใครอยากจะไปหาหมอเพราะฝุ่นและมลพิษเป็นแน่ อย่างนี้ต้องรีบหาวิธีป้องกันและระวังตัวเองจากฝุ่น PM 2.5 ตัวร้ายและมลพิษอันตรายในอากาศไม่ให้เข้าเยื่อบุจมูกกันตั้งแต่วันนี้ ก่อนที่จะป่วยในวันหน้า
จากข่าวรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมการเตรียมความพร้อมด้านการแพทย์และสาธารณสุข ว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับปัญหาฝุ่น PM 2.5 จากการติดตามสถานการณ์พบว่า แนวโน้มค่าฝุ่น PM 2.5 เริ่มสูงขึ้น และยังคาดการณ์ว่าช่วงต้นปี 2565 สถานการณ์อาจจะมีความรุนแรงมากกว่าปีที่แล้ว เนื่องจากความกดอากาศสูง ทำให้สภาพอากาศนิ่งจนเกิดการสะสมของฝุ่นได้ง่าย ร่วมกับกิจกรรมต่าง ๆ ที่ก่อให้เกิดฝุ่น ทั้งการเดินทางและขนส่ง โรงงานอุตสาหกรรม การจัดการทางการเกษตร รวมถึงไฟป่า ซึ่งจากข่าวนั้นเมื่อสิ้นปีจนทุกวันนี้การคาดการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์ฝุ่นและมลพิษก็ไม่ผิดจากที่หน่วยงานรัฐกล่าวไว้ เพราะในหลายๆ จังหวัดโดยเฉพาะตัวเมืองก็มีสภาพอากาศที่ไม่ดีและเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ
เตรียมการเฝ้าระวังผลกระทบ พร้อมเปิดคลินิกมลพิษออนไลน์
จากสถานการณ์ฝุ่นละอองและมลพิษที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น กระทรวงสาธารณสุขถึงกับต้องให้ทุกจังหวัดเตรียมการเฝ้าระวังดูแลและป้องกันผลกระทบสุขภาพประชาชนจากฝุ่น PM 2.5 ในหลายๆ ด้าน อาทิ
- เฝ้าระวังและแจ้งเตือนสถานการณ์ สื่อสารข้อมูลผลกระทบ การปฏิบัติตน การดูแลสุขภาพในรูปแบบต่าง ๆ ตามความเหมาะสมกับบริบทพื้นที่ เพื่อยกระดับความรอบรู้สุขภาพ
- เตรียมความพร้อมในการดูแลและป้องกันความเสี่ยงต่อสุขภาพ โดยสำรวจและจัดทำทะเบียนกลุ่มเสี่ยงจาก PM 2.5 ให้ทีมหมอติดตามดูแลกลุ่มเสี่ยงเป็นพิเศษ คือ ผู้ป่วยโรคหอบหืด ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง และเด็กเล็ก เตรียมพร้อมจัดบริการสาธารณสุข
- ให้โรงพยาบาลเปิดคลินิกมลพิษ ให้คำปรึกษาและการรักษา พร้อมสนับสนุนอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล ซึ่งขณะนี้มีการเปิดคลินิกมลพิษออนไลน์แล้ว 49 แห่งทั่วประเทศ และจัดเตรียมห้องปลอดฝุ่นในสถานบริการสาธารณสุข สถานที่มีกลุ่มเสี่ยง คือ ศูนย์เด็กเล็ก สถานที่ดูแลผู้สูงอายุ หรือบ้านเรือนประชาชน
- เตรียมความพร้อมเปิดศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขทุกระดับ โดยเปิดระดับจังหวัดเมื่อค่าฝุ่นสูงเกิน 75 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ต่อเนื่อง 3 วัน เปิดระดับเขตสุขภาพ เมื่อเปิดศูนย์ระดับจังหวัดมากกว่า 2 จังหวัด เปิดระดับกรมเมื่อเปิดระดับเขตสุขภาพมากกว่า 2 เขตสุขภาพ และเปิดระดับกระทรวงเมื่อเปิดมากกว่า 3 เขตสุขภาพ
- เฝ้าระวังผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะ 4 กลุ่มโรค ได้แก่ โรคระบบทางเดินหายใจ ระบบหัวใจและหลอดเลือด ระบบผิวหนัง และระบบตา
- ให้ประชาชนเฝ้าระวังอาการและพฤติกรรมในการป้องกันตนเองจากการสัมผัสฝุ่นผ่าน Line Official Account “ONE4U” หรือเว็บแอปพลิเคชัน 4health เนื่องจากมีบางส่วนที่ได้รับผลกระทบทางสุขภาพ แต่ไม่ได้ไปโรงพยาบาล เพื่อให้แต่ละพื้นที่ได้มีข้อมูลในการวางแผนแก้ไขปัญหาได้
ฝุ่นพิษร้าย ทำลายสุขภาพหลายระบบ
เมื่อทางหน่วยงานรัฐออกมาเตือน พร้อมมีแผนเตรียมการณ์กันมากขนาดนี้ ประชาชนอย่างเราเองจึงควรต้องระมัดระวังป้องกันตัวเองกันให้มาก ไม่ละเลยคำเตือนหรือข้อแนะนำต่างๆ เพื่อสุขภาพของตัวเอง เพราะหากเราไม่ป้องกันตัวเองจากฝุ่น PM 2.5 และมลพิษร้าย อาจทำให้เกิดโรคอันตรายต่างๆ ได้มากมาย เช่น
1) โรคเกี่ยวกับระบบการหายใจ เพราะมลพิษในอากาศจะส่งผลโดยตรงกับระบบทางเดินหายใจและปอด ยิ่งเมื่อฝุ่นละอองขนาดเล็กที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า ยิ่งสามารถผ่านเข้าสู่ทางเดินหายใจได้ง่ายและรวดเร็ว ส่งผลให้ผู้ป่วยโรคหอบหืดกำเริบ หรือเป็นสาเหตุให้คนปกติเป็นหอบหืดได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังเป็นสาเหตุของโรคต่างๆ ได้อีก เช่น โพรงจมูกอักเสบทั้งแบบภูมิแพ้ และติดเชื้อหลอดคอ กล่องเสียงและหลอดลมอักเสบ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ปอดอักเสบ ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ รวมทั้งทำให้ติดเชื้อต่างๆ ได้ง่ายยิ่งขึ้น
2) โรคเกี่ยวกับระบบหัวใจ การสูดหายใจเอาฝุ่นละอองพิษเล็กจิ๋วติดต่อกันระยะหนึ่ง ส่งผลให้เกิดการตะกอนภายในหลอดเลือด สามารถทำให้เกิดหัวใจวาย หรือหลอดเลือดสมองตีบได้ และการสัมผัสมลพิษทางอากาศยังมีผลต่อเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจ ทำให้เต้นผิดจังหวะ และอาจรุนแรงจนส่งผลให้หัวใจวายเฉียบพลัน ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ กล้ามเนื้อหัวใจตาย และหัวใจล้มเหลวได้ด้วย
3) โรคเกี่ยวกับระบบหลอดเลือด ได้แก่ หลอดเลือดไปเลี้ยงสมองเสื่อม โรค stroke ของหลอดเลือดสมอง หลอดเลือดสมองตีบ แตก และตัน โรคความดันโลหิตสูง หลอดเลือดเลี้ยงหัวใจตีบ หลอดเลือดดำอุดตัน โดยมีรายงานว่าฝุ่นละอองในอากาศที่มีปริมาณมากเกินระดับมาตรฐานสัมพันธ์กับการหนาตัวของผนังหลอดเลือดแดงที่เพิ่มขึ้นและสัมพันธ์กับอัตราการเสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือด โดยการเพิ่มขึ้นของฝุ่น PM 2.5 ทุกๆ 10 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์มิลลิเมตร สัมพันธ์กับอัตราการเสียชีวิตจากหัวใจและหลอดเลือดเพิ่มขึ้นถึง 10 % ในประชากรโดยรวม และเพิ่มขึ้นถึง 20 % ในกลุ่มที่เป็นโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน (https://www.chulabhornhospital.com/page.php?name=845)
4) โรคทางระบบสมอง เมื่อฝุ่นผงขนาดเล็กสามารถผ่านเข้าสู่กระแสเลือดและเกิดการสะสมขึ้น ส่งผลให้ความดันโลหิตสูง และเลือดมีความหนืด ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดลิ่มเลือดในสมอง รวมถึงหลอดเลือดแดงในสมองแข็งตัว ทำให้เส้นเลือดในสมองตีบ หรือแตก เป็นสาเหตุของโรคอัมพฤกษ์อัมพาตและเสียชีวิตได้ ทั้งยังทำให้การทำงานของสมองด้อยประสิทธิภาพ สมองเสื่อม สมาธิสั้นและเสี่ยงต่อการเกิดโรคทางระบบจิตประสาท ได้แก่ อารมณ์แปรปรวน ความผิดปกติทางจิตแบบซึมเศร้าและฆ่าตัวตาย
5) โรคมะเร็ง นอกจากฝุ่นพิษจะเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดแล้ว ยังทำให้การทำงานของปอดถดถอย อาจเกิดโรคถุงลมโป่งพองและเพิ่มโอกาสทำให้เกิดมะเร็งปอดได้อีกด้วย
เมื่อฝุ่นรุนแรงสุด ต้องรีบหยุดไม่ให้เข้าจมูก
เพราะจมูกคือทางเดินหายใจสำคัญ และเป็นช่องทางแรกที่ฝุ่นละอองและมลพิษต่างๆ จะเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายที่สุด
ยิ่งในช่วงนี้สถานการณ์อากาศยังไม่ดี ไม่ควรไว้วางใจ เพราะออกนอกบ้านเมื่อไรอาจหายใจสูดฝุ่นและมลพิษได้ตลอดเวลา จึงขอแนะนำให้ทุกคนอย่ารอช้าควรรีบป้องกันฝุ่นพิษทุกวันก่อนที่มาทำร้ายสุขภาพ ด้วย สเปรย์พ่นจมูกชนิดผง นาซัลลีซ พีเอ็ม ชีลด์ (Nasaleze PM Shield) ที่จะช่วยดักจับและป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก ฝุ่น PM2.5 สารมลพิษต่างๆ ในอากาศไม่ให้เข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ เพราะมีส่วนประกอบและคุณสมบัติพิเศษที่ช่วยป้องกันฝุ่นละอองและสารมลพิษเข้าสู่ร่างกายได้จริง
- ผลิตจากสารสกัดธรรมชาติ 100% มีผงเซลลูโลส (HPMC) 95% และผงเลม่อน 5% ที่สามารถช่วยดักจับและป้องกัน ฝุ่น PM 2.5 สารมลพิษต่างๆ ไม่ให้เข้าสู่เยื่อบุจมูกและทางเดินหายใจได้
- ทำงานโดยเปลี่ยนผงจากสเปรย์ให้มีลักษณะเป็นเจลในจมูก เพื่อดักจับ ป้องกัน ไม่ให้ฝุ่นละอองขนาดเล็ก ฝุ่น PM 2.5 สารมลพิษในอากาศเข้าในเยื่อบุจมูก และเข้าไปสู่ระบบทางเดินหายใจในร่างกาย
- ผ่านการศึกษาและทดสอบทางคลินิกกว่า 35 การศึกษา พบประสิทธิภาพในการช่วยจับฝุ่น PM 2.5 ได้ถึง 94% เป็นระยะเวลานานถึง 6 ชั่วโมง
- อ่อนโยนและมีความปลอดภัยสูง ไม่มีส่วนผสมของยา ไม่มีผลข้างเคียง ใช้ได้ตั้งแต่เด็กวัย 18 เดือนขึ้นไป และกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้สูงวัย คุณแม่ตั้งครรภ์และคุณแม่ให้นมบุตร
- ออกฤทธิ์เร็วภายใน 2 นาที พ่น 1 ครั้ง ดักจับและป้องกันฝุ่นได้ 6 ชั่วโมง พ่นวันละ 2-3 ครั้งหรือทุก 6-8 ชั่วโมง จะช่วยป้องกันฝุ่น PM 2.5 และสารมลพิษในอากาศเข้าสู่เยื่อบุจมูกได้ตลอดวัน
- มาตรฐานระดับสากล ผลิตในประเทศอังกฤษ นิยมใช้ในกว่า 50 ประเทศทั่วโลก
- ผ่านการรับรอง ใบอนุญาตโฆษณาเครื่องมือแพทย์จาก อย. เลขที่ ฆพ.673/2564
- มีใบอนุญาตนำเข้าเครื่องมือแพทย์ เลขที่ GBR6304847
- ใช้ง่ายเพียงเปิดฝา เขย่าขวด บีบพ่นผงเข้าไปในรูจมูกทั้ง 2 ข้าง และคุ้มค่าเพราะ 1 ขวดใช้ได้ถึง 200 ครั้ง
- ใช้ได้ทุกที่ทุกเวลา ควรใช้ก่อนเข้าไปในบริเวณที่เสี่ยงต่อฝุ่นละออง ฝุ่น PM 2.5 และมีสารมลพิษในอากาศสูง
*ข้อมูลอ้างอิง https://www.tnnthailand.com/news/social/99308/, https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_6782393,
https://www.thaihealth.or.th/sook/info-body-detail.php?id=232, https://www.rama.mahidol.ac.th/ramachannel/article/ไม่อยากแพ้ให้กับ-pm-2-5, https://www.chulabhornhospital.com/page.php?name=845, https://www.samitivejchinatown.com/th/health-article/PM-25-Effects-Your-Health, https://www.synphaet.co.th/ผลกระทบจากฝุ่นพิษ-pm-2-5/
#Nasaleze #นาซัลลีซ #สเปรย์พ่นจมูกชนิดผง #NasalezePMShield #PM2.5
#สเปรย์พ่นจมูกดักจับฝุ่นขนาดเล็ก #MadeInEngland #ระวังของเลียนแบบ
#เพิ่มการ์ด #ExtraProtection #นวัตกรรมใหม่ #innovation #มลพิษ #อากาศเสีย
#ฝุ่นควัน #ควันท่อไอเสีย #pollution #วัณโรค #ปอดอักเสบ #เผาป่า #ไฟป่า
Line : @nasaleze (มี@ ด้านหน้าด้วยนะคะ) หรือ คลิก https://lin.ee/Iy3ufdh