รู้ไหมว่า…ฝุ่น PM2.5 ทำเราป่วยได้มากกว่าที่คิด ไม่ใช่แค่โรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ แต่ยังส่งผลต่อภูมิคุ้มกัน ทำให้โรคภัยในร่างกายกำเริบจนเป็นอันตรายได้มากขึ้น แถมยังสร้างปัญหาให้ผิวหนังและความงาม ทำให้ผมร่วงเป็นโรคผิวหนัง แก่ก่อนวัย รู้แบบนี้แล้วรีบป้องกันฝุ่นจิ๋ว PM 2.5 ตัวอันตรายอย่าให้เข้าร่างกายได้เด็ดขาด

ฝุ่นร้าย ทำร่างกายป่วยกำเริบ

               หลายคนอาจไม่เคยรู้ว่าฝุ่น PM2.5 ตัวร้าย ทำลายสุขภาพได้มากมายกว่าที่คิด แถมยังทำให้ผิวหนังเหี่ยวแก่ก่อนวัย ทำให้เกิดโรคภัยต่างๆ คราวนี้จะมาเน้นกันที่เรื่องของสุขภาพที่เห็นกันได้ชัดเจน ทั้งหอบหืด โรคผิวหนัง ผมร่วง มะเร็งผิวหนัง ที่ทุกคนคงไม่อยากจะเป็น แต่เจ้าตัว PM 2.5 นั้นทำร้ายเราได้อย่างไม่น่าเชื่อ ไปดูกันว่าอันตรายของเจ้าฝุ่นร้ายมีอะไรบ้าง 

ข้อมูลจาก อาจารย์ นายแพทย์ สมศักดิ์  ตันรัตนากร  สาขาวิชาโรคผิวหนัง  ภาควิชาอายุรศาสตร์  คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี  มหาวิทยาลัยมหิดล ได้อธิบายไว้ว่า ปัจจุบันความเข้มข้นของฝุ่นมีมากขึ้นจนส่งผลต่อสุขภาพของประชาชนโดยทั่วไป ตัวของฝุ่นมีภาวะคล้ายกับเป็นอนุมูลอิสระ ซึ่งพอเข้าสู่เซลล์ภายในร่างกายจะทำให้เกิดกระบวนการอักเสบขึ้นมาได้ ดังนั้นหากคนที่มีโรคอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นโรคระบบทางใด ยกตัวอย่างเช่น หากเป็นโรคระบบทางเดินหายใจ หรือหอบหืดอยู่แล้วก็จะทำให้กำเริบมากขึ้น ส่วนทางผิวหนัง คนที่มีปัญหาผิวหนังซึ่งเป็นอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว เช่น หากมีผิวหนังอักเสบอยู่เดิม ผิวหนังอักเสบจากภูมิแพ้ คนที่เป็นสะเก็ดเงิน คนที่เป็นสิว  แม้กระทั่งคนที่มีผมบางผมร่วงแบบกรรมพันธุ์ ถ้าหากว่าได้รับหรืออยู่ในบริเวณที่มีฝุ่น PM 2.5 มากและเป็นเวลานาน จะส่งผลทำให้ภาวะการอักเสบของผิวหนังเป็นเพิ่มมากขึ้น อย่างที่เราเห็นจากข่าวที่ผ่านมา ที่ผู้หญิงคนหนึ่งมีปัญหาผิวหนังอาจจะเป็นผิวหนังอักเสบภูมิแพ้หรืออาการเกี่ยวกับผิวหนังต่างๆ มาก่อนหน้านี้แล้ว พอสัมผัสหรือได้รับฝุ่นเข้าไป ก็ทำให้มีอาการของโรคกำเริบขึ้นทั่วร่างกาย 

ผิวหนังเจอฝุ่น ทำแก่ก่อนวัยและเป็นมะเร็งได้

อย่างไรก็ตามไม่ใช่แค่เพียงแต่เฉพาะคนที่มีปัญหาหรือโรคผิวหนังอยู่เดิมแล้วที่จะมีอาการกำเริบเมื่อได้รับฝุ่น PM 2.5  ในคนที่มีผิวหนังปกติธรรมดาอยู่ ถ้าหากว่าผิวหนังโดนหรือสัมผัสกับฝุ่น PM 2.5 ในความเข้มข้นสูงๆ และเป็นเวลานานๆ  ก็มีผลกระทบเช่นกัน เพราะมีการศึกษารายงานจากต่างประเทศ ที่พบว่าการสัมผัสกับฝุ่นอาจจะทำให้ผิวหนังแก่ก่อนวัย เพราะถือว่าฝุ่นเป็นมลภาวะอย่างหนึ่ง ทำให้เกิดอนุมูลอิสระและทำลายผิวหนัง ทำให้ผิวหนังแก่เร็ว และอาจจะมีเรื่องของกระที่เป็นเพิ่มขึ้นได้ด้วย นอกจากนี้ก็อาจจะทำให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนังได้ เพราะฝุ่น PM 2.5 จะเป็นอนุมูลอิสระที่เข้าไปอยู่ในเซลล์ได้ซ้ำๆ ฉะนั้นก็อาจทำให้มีโอกาสเป็นโรคกลุ่มของมะเร็งผิวหนังได้เพิ่มขึ้น ถ้าหากว่าสัมผัสหรือได้รับฝุ่น PM 2.5 เป็นเวลานานๆ  

รวมทั้งโรคที่พบเจอและมีหลักฐานค่อนข้างชัด คือโรคผิวหนังอักเสบภูมิแพ้ (Atopic Desease) พวกนี้จะมีลักษณะผื่น ผิวแห้ง ซึ่งปัจจุบันนี้พบได้มาก เมื่อสัมผัสกับสารกระตุ้นหรือสารก่อภูมิแพ้อย่างฝุ่นและมลพิษก็จะยิ่งทำให้มีอาการมากขึ้นได้

และอีกส่วนที่สำคัญและไวต่อการได้รับฝุ่นต่างๆ มาก คือระบบทางเดินหายใจ ซึ่งหากได้สูดหายใจฝุ่นละอองจิ๋ว PM 2.5 เข้าไปฝุ่นนี้จะเคลื่อนที่เข้าไปยังหลอดลมส่วนปลาย กระตุ้นการอักเสบของหลอดลม คนที่เป็นหอบหืดจึงมีอาการกำเริบรุนแรงขึ้น จนมีอาการหายใจมีเสียงวี้ด แน่นหน้าอกหายใจไม่สะดวก เหนื่อยหอบ ไอ อาจไอแห้งหรือไอมีเสมหะ         

กู้คืนสุขภาพดี หนีให้ห่างฝุ่นพิษ

ฉะนั้นในช่วงที่อากาศหรือสิ่งแวดล้อมรอบข้างมีฝุ่นพิษ แนะนำให้ทุกคนพยายามหลีกเลี่ยงไม่เข้าไปบริเวณที่มีฝุ่นมาก และป้องกันตัวเองจากฝุ่น หรือหากจำเป็นต้องเข้าไปบริเวณนั้นควรสวมหน้ากากที่ป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็กได้ ถ้าไม่อย่างนั้นอาจจะทำให้อาการหรือโรคประจำตัวที่มีอยู่แล้วกำเริบเป็นหนักมากยิ่งขึ้นได้ ดังนั้นสำหรับเด็ก ผู้ใหญ่หรือคนชราที่มีโรคประจำตัวอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคทางเดินหายใจไม่ว่าจะเป็นหอบหืด สำหรับคนที่มีปัญหาผิวหนังควรสวมเสื้อแขนยาวป้องกันการสัมผัสฝุ่น  รวมถึงการดูแลรักษาความสะอาดของผิวหนัง หลังจากที่เราออกจากบ้านก็มีความสำคัญ ควรต้องอาบน้ำล้างหน้าชำระร่างกายให้สะอาดปราศจากฝุ่น อย่าชะล่าใจว่าตัวเราไม่เป็นมีฝุ่นอะไรเลย เพราะฝุ่นเหล่านี้มีขนาดที่เล็กๆ มากๆ และมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ดังนั้นการระวังป้องกันไว้จะดีที่สุด  

และอีกหนึ่งที่สำคัญและขาดไม่ได้คือการป้องกันไม่ให้ฝุ่นเข้าสู่ทางเดินหายใจ เข้าไปในจมูกได้ง่าย ด้วยการสวมหน้ากากอนามัยป้องกันฝุ่น หรือใช้นวัตกรรมอันเป็นตัวช่วยดักจับและป้องกันฝุ่นไม่ให้เข้าเยื่อบุจมูก นั่นคือ  สเปรย์พ่นจมูกชนิดผง นาซัลลีซ พีเอ็ม ชีลด์ (Nasaleze PM Shield) ที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันฝุ่น PM2.5 และสารมลพิษในอากาศ เป็นเครื่องมือช่วยป้องกันฝุ่นร้าย ไม่ให้เป็นภัยเงียบเข้าสู่ร่างกายจนทำลายสุขภาพของเราโดยที่เราไม่รู้ตัว

สเปรย์พ่นจมูกชนิดผง ไอเท็มใหม่! ขาดไม่ได้ช่วงที่มีฝุ่น PM 2.5

• อ่อนโยน ปลอดภัย ผลิตจากสารสกัดธรรมชาติ 100% มีส่วนประกอบของผงเซลลูโลส (HPMC) 95% และ
• ผงเลม่อน 5% ที่สามารถช่วยเคลือบ ดักจับและป้องกันฝุ่น PM 2.5 สารมลพิษต่างๆ ไม่ให้เข้าสู่เยื่อบุจมูกและทางเดินหายใจได้
• มีความปลอดภัยสูง ไม่มีส่วนผสมของยา ไม่มีผลข้างเคียง ใช้ได้ตั้งแต่เด็กวัย 18 เดือนขึ้นไป และกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้สูงวัย คุณแม่ตั้งครรภ์และคุณแม่ให้นมบุตร
• มีประสิทธิภาพป้องกันฝุ่น PM2.5 และสารมลพิษได้จริง ด้วยการเปลี่ยนผงสเปรย์ให้มีลักษณะเป็นเจลในจมูก เพื่อดักจับ ป้องกัน ไม่ให้ฝุ่นละอองขนาดเล็ก ฝุ่น PM 2.5 สารมลพิษในอากาศเข้าในเยื่อบุจมูก และเข้าไปสู่ระบบทางเดินหายใจในร่างกาย
• ผ่านการศึกษาและทดลองทางคลินิก ว่ามีประสิทธิภาพในการช่วยจับฝุ่น PM 2.5 ได้ถึง 94% เป็นระยะเวลานานถึง 6 ชั่วโมง
• ออกฤทธิ์เร็ว ป้องกันฝุ่นเข้าจมูก พ่นแล้วออกฤทธิ์ภายใน 2 นาที พ่น 1 ครั้ง สามารถดักจับและป้องกันฝุ่นได้ 6 ชั่วโมง พ่นวันละ 2-3 ครั้ง หรือทุก 6-8 ชั่วโมง จะช่วยป้องกันฝุ่น PM 2.5 และสารมลพิษในอากาศเข้าสู่จมูกได้ตลอดวัน
• มีอย. ผ่านมาตรฐานระดับสากล  ผ่านการรับรอง ใบอนุญาตโฆษณาเครื่องมือแพทย์จาก อย. เลขที่ ฆพ.673/2564
• มีใบอนุญาตนำเข้าเครื่องมือแพทย์ เลขที่ GBR6304847 
• ผลิตในประเทศอังกฤษ นิยมใช้กว่า 50 ประเทศทั่วโลก
• ใช้ง่าย คุ้มค่า เพียงเปิดฝา เขย่าขวด บีบพ่นผงเข้าไปในรูจมูกทั้ง 2 ข้าง  1 ขวดใช้ได้ถึง 200 ครั้ง
• ใช้ได้ทุกที่ทุกเวลา ควรใช้ก่อนเข้าไปในบริเวณที่เสี่ยงต่อฝุ่นละออง ฝุ่น PM 2.5 และมีสารมลพิษในอากาศสูง