โรคภูมิแพ้เป็นกลุ่มโรคเรื้อรังที่พบมากขึ้นทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย จากการสำรวจในประเทศไทยพบว่ามีอุบัติการณ์เพิ่มขึ้น 3 – 4 เท่า ในระยะเวลา 40 ปีที่ผ่านมา โดย 1 ใน 3 ของเด็กไทยเป็นโรคเยื่อบุจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ และ 1 ใน 6 เป็นโรคผิวหนังอักเสบจากภูมิแพ้ แล้วสังเกตไหมว่าเด็กๆ เป็นภูมิแพ้กันมากขึ้น ยิ่งลูกบ้านไหนอยู่ในที่อากาศไม่ดี  ยิ่งจาม คัดจมูก น้ำมูกไหล เป็นๆ หายๆ กันทั้งปี ส่งผลเสียต่อสุขภาพ บั่นทอนคุณภาพชีวิตและการเรียนรู้ของลูกได้ทุกวัน ดังนั้นเชิญชวนคุณพ่อคุณแม่มาป้องกัน ไม่ให้ภูมิแพ้ของลูกต้องกำเริบบ่อย ด้วยการเพิ่มการ์ดที่ “จมูก” ให้ลูกกันเถอะ

ทำไมคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ถึงมักจะจามบ่อยๆ นะ…การจามเป็นหนึ่งในอาการโรคภูมิแพ้ชนิดที่เรียกกันว่า โรคภูมิแพ้จมูก (Allergic Rhinitis) หรือว่า “แพ้อากาศ” นั่นเอง เป็นโรคที่พบบ่อยในประเทศไทย โดยเฉพาะในผู้ป่วยเด็กและวัยรุ่น มากกว่า 80% ของผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ มีอาการก่อนอายุ 20 ปี แต่ก็สามารถพบได้ในคนทุกวัย โรคภูมิแพ้จมูกนี้มีอาการเรื้อรัง สร้างความรำคาญให้แก่ผู้ป่วย, ผู้ปกครอง และอาจเกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆ ได้ เช่น ไซนัสอักเสบ, หูชั้นกลางอักเสบ

ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้จมูกจะมีปฏิกิริยาตอบสนองไวเกินต่อสารก่อภูมิแพ้ เมื่อใดก็ตามที่มีสารก่อภูมิแพ้เข้าสู่ร่างกาย จะมีสารที่ชื่อว่า อิมมูโนโกลบูลินอี (Immunoglobulin E; IgE) ถูกสร้างขึ้นมาและเข้าทำปฏิกิริยากับสารก่อภูมิแพ้ที่หายใจเข้าไป เป็นผลให้เซลล์บางชนิดภายในจมูก มีการแตกตัวและหลั่งสารเคมีออกมาทำให้เกิดการอักเสบ และมีอาการต่าง ๆ ของโรคตามมา

ปัจจุบันเด็กๆ เป็นภูมิแพ้กันจำนวนมาก โดยโรคภูมิแพ้ในเด็ก มีสาเหตุที่เกิดจากการตอบสนองของภูมิคุ้มกันในร่างกายที่มากกว่าปกติ ซึ่งเป็นการตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้น จนทำให้เกิดอาการแพ้ โดยอาการแพ้นั้นขึ้นอยู่กับระบบต่างๆ ในร่างกาย หรือชนิดของโรคภูมิแพ้ที่เป็น ซึ่งสาเหตุมีทั้งมาจากปัจจัยทางพันธุกรรม คือมีประวัติคนในครอบครัวหรือพ่อแม่เป็นโรคภูมิแพ้ ที่สำคัญคือมีจำนวนไม่น้อยที่เกิดจากปัจจัยทางสิ่งแวดล้อมทำให้เป็นภูมิแพ้  โดยมีข้อมูลพบว่าคนที่ป่วยด้วยโรคภูมิแพ้ถึง15% ไม่ได้มีพ่อหรือแม่ที่เป็นโรคภูมิแพ้ แต่เกิดจากการอยู่อาศัยในสิ่งแวดล้อมที่มีสารก่อภูมิแพ้อยู่เป็นจำนวนมาก เช่น ไรฝุ่น แมลงสาบ การเลี้ยงสัตว์ที่มีขนในบ้าน เช่น สุนัข แมว เป็นต้น ตลอดจนการได้รับมลพิษทางอากาศเช่น ควันจากท่อไอเสียรถยนต์ ควันจากโรงงานอุตสาหกรรม ควันบุหรี่ รวมถึงการที่เด็กไม่ได้กินนมแม่นม ในช่วงอายุ 6 เดือนแรกเกิด ก็เป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ได้

โรคภูมิแพ้ที่พบบ่อยในเด็ก แบ่งออกเป็น 4 โรคใหญ่ๆ ได้แก่

• โรคหืด เกิด จากทางเดินหายใจที่บวม ตีบแคบลง ซึ่งถูกกระตุ้นโดยปฏิกิริยาภูมิแพ้หรือสาเหตุอื่นๆ

ร่วมด้วย จะมีอาการหายใจเสียงดัง “วี้ด” หอบ แน่นหน้าอก อาจเกิดอาการในตอนกลางคืน ขณะออกกำลัง หรือขณะเป็นหวัด

• โรคเยื่อบุจมูกอักเสบภูมิแพ้ มีอาการ จาม คัน คัดจมูก มีน้ำมูกใส เป็นเรื้อรัง หลายสัปดาห์ ในช่วง

ฤดูฝน หรือตลอดทั้งปี

• โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง มี ผื่น คัน จนผิวหนังแดง เป็นเรื้อรัง โดยจะพบในเด็กเล็กและมีอาการมากเมื่อ

มีสิ่งกระตุ้นเช่น ร้อนเหงื่อออก แพ้อาหาร เป็นต้น

• แพ้อาหาร ทำให้เกิดอาการได้หลายๆระบบ ได้แก่ ระบบทางเดินอาหาร จะปวดท้อง อาเจียน ท้องเสีย

ถ่ายมีมูกปนเลือด อาการทางผิวหนัง มีผื่นขึ้น ลมพิษ หรือระบบทางเดินหายใจเช่น หอบ คัดจมูก มีน้ำมูกเรื้อรัง

อาการของโรคภูมิแพ้ในเด็กแต่ละโรคมักจะเกิดขึ้นตามอายุที่แตกต่างกันออกไป เช่น  โรคแพ้อาหารและผื่นผิวหนัง ส่วนใหญ่มักเกิดในเด็กอายุ 1 ปี ส่วนการแพ้นั้นอาการมักแพ้พวกนมอาจกินแล้วมีเสียงดังครืดคราดในปอดเนื่องจากจะผลิตเสมหะเพิ่มมากขึ้น และผื่นแพ้ทางผิวหนัง อาจมีผื่นขึ้นตามตัว ข้อพับ ในร่มผ้า และมีอาการคัน

ส่วนของโรคภูมิแพ้ที่เกิดกับระบบทางเดินหายใจ เช่นโรคหืดและ โรคเยื่อบุจมูกอักเสบภูมิแพ้ มักเกิดในเด็กได้ตั้งแต่อายุ 3 ปีขึ้นไป  โดยเฉพาะภูมิแพ้จมูกอักเสบหรือแพ้อากาศที่เป็นมาก และจะแสดงอาการเมื่อเด็กไปสัมผัสกับสิ่งแวดล้อมที่มีควันพิษหรือของเสีย เมื่อเจอฝุ่นหรืออากาศเย็น ทำให้มีน้ำมูกใสไหลตลอดเวลา และจะเป็นเรื้อรังไม่หายขาด  ทำให้เด็กๆ จะเหมือนเป็นหวัดทั้งปี ต้องมานั่งเช็ดน้ำมูก เสียสุขภาพ หงุดหงิด อารมณ์ไม่ดี  ไม่มีสมาธิในการเรียนรู้ 

เพราะวิธีที่ดีที่สุดเพื่อป้องกันอาการภูมิแพ้ไม่ให้กำเริบได้ คือการหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ หากปล่อยให้อาการกำเริบบ่อยครั้งอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้ ยิ่งในช่วงที่มีโควิดระบาดแบบนี้ เชื่อว่าพ่อแม่ยิ่งกังวลใจ เพราะไม่รู้ว่าเป็นโควิดหรือภูมิแพ้กันแน่ ยิ่งทำให้ครอบครัวแย่กันใหญ่  เราจึงชวนคุณพ่อคุณแม่มาเพิ่มการ์ดที่จมูกให้ลูกไม่ให้สารก่อภูมิแพ้ทั้งหลายเข้าสู่ร่างกายลูกได้ง่าย เพราะการหลีกเลี่ยงหรือป้องกันสิ่งแวดล้อมต่างๆ มักจะทำได้ยาก เนื่องจากลูกกำลังอยู่ในวัยสำรวจและเรียนรู้   

ไรฝุ่น ภูมิแพ้ แก้ยาก แต่เราป้องกันไม่ให้เข้าจมูกได้  

            เชื่อว่าด้วยชีวิตประจำวันของเกือบทุกบ้าน ทำให้การป้องกันลูกไม่ให้สัมผัสกับสารกระตุ้นภูมิแพ้ เช่น ไรฝุ่น ฝุ่น ควันรถยนต์ อากาศเสีย ทำได้ค่อนข้างยาก เพราะทุกอย่างเป็นสิ่งที่เรามองไม่เห็น  ยิ่งเด็กๆ ที่ยังไม่รู้เดียงสา ไปวิ่งเล่น ไม่ระวังตัวก็ยิ่งทำให้เจ็บป่วยติดเชื้อได้ง่าย กลับมาบ้านถ้าแพ้ไรฝุ่นก็มักจะต้องเปลี่ยนหมอนที่นอน ซักเป็นประจำ ฆ่าเชื้อ ตากแดด เพื่อป้องกันไรฝุ่น ไม่รวมฝุ่นละอองต่าง เป็นสิ่งที่กำจัดได้ยาก ฉะนั้นฉะนั้นวิธีที่ดีที่สุด คือการป้องกันจมูกลูกไว้ล่วงหน้า ไม่ให้สูดสารก่อภูมิแพ้ที่มองไม่เห็นเข้าทางเดินหายใจ ด้วย “สเปรย์พ่นจมูกชนิดผง”

สเปรย์พ่นจมูกชนิดผง “บล็อคและหยุดภูมิแพ้ แก้ที่จมูก” 

            ชวนคุณพ่อคุณแม่สร้างเกราะป้องกันจมูกให้ลูก ป้องกันสารกระตุ้นภูมิแพ้ไม่ให้เข้าสู่จมูกลูกจนมีอาการกำเริบ ด้วย สเปรย์พ่นจมูกชนิดผง (Powder Nasal Spray) สำหรับป้องกันการเกิดอาการภูมิแพ้หรือแพ้อากาศ  ด้วยคุณสมบัติสำคัญต่างๆ ดังนี้

• ช่วยสร้างเกราะป้องกันในจมูก โดยเปลี่ยนผงสเปรย์เป็นเจลใสในโพรงจมูก เพื่อดักจับและป้องกันไม่ให้สารก่อภูมิแพ้ในอากาศเข้าสู่เยื่อบุโพรงจมูกของลูกได้
• ผลิตจากสารสกัดธรรมชาติ ผงเซลลูโลส (HPMC) 97% และ ผงสตรอเบอรี่ 3% มีประสิทธิภาพป้องกันสารก่อภูมิแพ้ในอากาศไม่ให้เข้าสู่เยื่อบุโพรงจมูก จนเกิดอาการแพ้
• มีกลไกช่วยลดการแตกตัวของแกรนูลในแมสเซลล์ การหลั่งอิมมูโนโกลบูลินอีและฮีสตามีน ทำให้สามารถป้องกันการเกิดอาการภูมิแพ้หรือแพ้อากาศได้
• ผ่านการทดสอบทางคลินิกมากกว่า 30 การศึกษา มีผลการศึกษายืนยันประสิทธิภาพในการลดอาการจาม คัดจมูก น้ำมูกไหล
• ผลิตในประเทศอังกฤษ มาตรฐานระดับสากล และมีการวิจัยสมาคมโรคภูมิแพ้แห่งสหรัฐอเมริกา (American Academy of Allergy Asthma & Immunology) ได้ระบุว่าเป็นตัวป้องกันสารก่อภูมิแพ้ (Allergen blocker) ได้
• ออกฤทธิ์เร็วภายใน 2 นาที พ่นเพียง 1 ครั้ง สามารถป้องกันสารก่อภูมิแพ้ได้ถึง 6 ชั่วโมง พ่นวันละ 2-3 ครั้ง หรือทุก 6-8 ชั่วโมง จะช่วยป้องกันสารก่อภูมิแพ้ในอากาศเข้าสู่เยื่อบุโพรงจมูกลูกได้ตลอดทั้งวัน
• มีความปลอดภัยสูง ไม่มีส่วนผสมของยา ไม่มีผลข้างเคียง เหมาะกับลูกน้อยตั้งแต่อายุ 18 เดือนขึ้นไป คุณแม่ตั้งครรภ์และคุณแม่ให้นมบุตร
• สามารถให้เด็กโตพกพาไปโรงเรียน และพ่นสเปรย์เองเพื่อป้องกันสารก่อภูมิแพ้ระหว่างวันได้ดี

นาซัลลีซ อัลเลอจี บลอคเกอร์ ใช้สำหรับป้องกันการเกิดอาการภูมิแพ้หรือแพ้อากาศ ดังนั้นควรเริ่มใช้ นาซัลลีซ อัลเลอจี บลอคเกอร์ก่อนที่จะสัมผัสสารก่อภูมิแพ้เพื่อป้องกันไม่ให้สารก่อภูมิแพ้ในอากาศเข้าสู่เยื่อบุโพรงจมูก ไปกระตุ้นให้เกิดอาการแพ้ต่างๆ นาซัลลีซ อัลเลอจี บลอคเกอร์ได้รับการพิสูจน์จากงานวิจัยทางคลินิก พบว่ามีประสิทธิภาพดีในกลุ่มผู้ป่วยโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ชนิดมีความรุนแรงน้อยถึงปานกลาง

นาซัลลีซ อัลเลอจี บลอคเกอร์ใช้เพื่อป้องกันอาการแพ้ก่อนเริ่มมีอาการ จึงไม่เหมือนยาที่ช่วยบรรเทาอาการ สามารถใช้ในการรักษาร่วมกับยา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาโรคภูมิแพ้หรือการแพ้อากาศ

ในกรณีที่ต้องใช้ยาพ่นทางจมูกอื่นร่วมด้วย ให้ใช้นาซัลลีซ อัลเลอจี บลอคเกอร์ภายหลังจากการใช้ยาพ่นจมูกอื่น เพื่อไม่ไห้เจลที่ดักจับในโพรงจมูกถูกทำลาย

เพื่อป้องกันโรคภูมิแพ้หรือการแพ้อากาศ ให้บีบพ่นนาซัลลีซ อัลเลอจี บลอคเกอร์วันละ 2-3 ครั้ง เพื่อให้ประสิทธิภาพการป้องกันสารก่อภูมิแพ้ในอากาศเข้าสู่เยื่อบุโพรงจมูกคงอยู่ตลอด

จากการศึกษาวิจัยพบว่า นาซัลลีซ อัลเลอจี บลอคเกอร์ สามารถป้องกันไม่ให้สารก่อภูมิแพ้ในอากาศเข้าสู่เยื่อบุโพรงจมูกได้นานถึง 6 ชั่วโมง ต่อการบีบพ่น 1 ครั้ง* (Diethart/Emberlin Invitro study)

นาซัลลีซ อัลเลอจี บลอคเกอร์ เป็นตัวเดียวที่ทางสมาคมโรคภูมิแพ้แห่งสหรัฐอเมริกา (American Academy of Allergy Asthma & Immunology) ได้ระบุว่าเป็นตัวป้องกันสารก่อภูมิแพ้ (Allergen blocker) ได้