FibroScan

วัยรุ่นไทยเบาหวานพุ่ง 27% ทำให้ไขมันพอกตับเพิ่มขึ้น!!!!

วัยรุ่นไทย เบาหวานพุ่ง 27% สัมพันธ์กับความชุกของโรคอ้วนที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้พบโรคไขมันพอกตับเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

วันเบาหวานโลก 14 พ.ย. พบวัยรุ่นไทยป่วยเป็นโรคเบาหวานเพิ่มขึ้นถึง 27% แพทย์ผู้ปกครองต้องร่วมกันคุมหวานตั้งแต่เด็ก  จากการศึกษาที่คลินิกต่อมไร้ท่อเด็ก โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ พบว่าสัดส่วนของโรคเบาหวานชนิดที่ 2 (ผู้เป็นส่วนใหญ่มักอ้วนและมีภาวะดื้อต่ออินซูลิน)ในเด็กวัยรุ่น (อายุ 10-19 ปี) เพิ่มจากร้อยละ 13 ในระหว่างปี พ.ศ. 2545-2550 เป็นร้อยละ 27 ระหว่างปี พ.ศ.2551-2562 สัมพันธ์กับความชุกของโรคอ้วนที่เพิ่มขึ้น โดยขณะนี้ทั่วโลกมีวัยรุ่นเป็นเบาหวานแล้วถึง 63 ล้านคน
ในปัจจุบันพบเด็กอ้วนเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเด็ก ๆ มัก ชอบรับประทานอาหาร ประเภทไก่ทอด มันฝรั่งทอด แฮมเบอร์เกอร์ พิซซ่า ขนมขบเคี้ยว ลูกอม ช็อคโกแลต น้ำอัดลม เครื่องดื่มที่มีน้ำตาล เช่น น้ำอัดลม ชาเขียว น้ำผลไม้และนมเปรี้ยวบรรจุกล่อง รวมทั้งเด็กๆ มีการออกกำลังกาย วิ่งเล่นหรือเล่นกีฬาน้อยลงแต่เล่นเกมคอมพิวเตอร์หรือดูโทรทัศน์เป็นเวลาหลายๆ ชั่วโมงในแต่ละวัน ความไม่สมดุลระหว่างพลังงานที่ได้รับจากการรับประทานที่มากเกินไปกับการใช้พลังงานที่น้อยเกินไปทำให้เด็กเกิดเป็นโรคอ้วน
เด็กอ้วนเหล่านี้มีโอกาสเกิดโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด เบาหวาน ไขมันใน เลือดสูง หยุดหายใจขณะนอนหลับ รวมทั้งโรคไขมันพอกตับ ในอดีตโรคเหล่านี้มักพบในวัยกลางคนหรือผู้สูงอายุ แต่ในปัจจุบันพบเด็กอ้วนเป็นโรคของผู้สูงอายุเหล่านี้เพิ่มขึ้น

ความรุนแรงของโรคไขมันพอกตับ

อาจเป็นได้ตั้งแต่ มีเพียงไขมันสะสมในตับ ไขมันสะสมในตับร่วมกับตับอักเสบหรือตับแข็ง(คือภาวะที่มีพังผืดในตับมากและโครงสร้างของเซลลต์ตับผิดปกติ) ดังนั้นเด็กที่เป็นโรคไขมันพอกตับเรื้อรังมักมีโอกาสเกิดตับอักเสบเรื้อรังและตับแข็งเหมือนผู้ที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี ซี หรือผู้ที่ดื่มเหล้าจัด จากการศึกษาในต่างประเทศ พบว่าเด็กวัยรุ่นที่อ้วนมีโรคไขมันพอกตับมากกว่าวัยรุ่นที่ไม่อ้วน 15-20 เท่า และพบเด็กอ้วนเป็นตับแข็งตั้งแต่อายุ 8 ขวบ ในปัจจุบันมีเด็กอ้วนเพิ่มขึ้นอย่างมาก ส่งผลใหพบโรคไขมัน พอกตับเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ในอนาคตโรคไขมันพอกตับจะเป็นสาเหตุของโรคตับเรื้อรังและตับแข็งในเด็กทั่วโลกรวมทั้งประเทศไทย

จะทราบได้อย่างไรว่าเด็กมีโรคไขมันพอกตับ?

การตรวจที่ดีที่สุดที่ช่วยบอกว่าเด็กมีตับอักเสบหรือตับแข็งหรือไม่ คือการเจาะตรวจเนื้อตับ แต่ไม่นิยมตรวจด้วยวิธีนี้ีเพราะเด็กอาจเกิดเลือดออกในช่องท้องปริมาณมาก ในปัจจุบันมีเครื่องมือตรวจวัดความแข็งของตับเรียกว่าเครื่องไฟโบรสแกนใช้ในการ ประเมินว่ามีพังผืดในตับมากกว่าปกติหรือไม่
***จากการศึกษาเด็กที่อ้วนมากๆ ที่โรงพยาบาล จุฬาลงกรณ์ จำนวน 96 คนพบว่าเป็นโรคไขมันพอกตับสูงถึงร้อยละ 80 (จากการตรวจอัลตราซาวนด์ตับ) และมีตับอักเสบสูงถึงร้อยละ 40 (จากการตรวจเลือด) นอกจากนั้นเมื่อตรวจเด็กอ้วนกลุ่มนี้ด้วยเครื่อง ไฟโบรสแกน พบว่าประมาณร้อยละ 30
มีพังผืดในตับมากกว่าปกติ
FibroScan

การรักษาในเด็กคือ การลดน้ำหนัก ซึ่งต้องอาศัยทั้งการรับประทานอาหารที่เหมาะสมร่วมกับการออกกำลังกายโดยที่ยังต้องดูแลงให้เด็กมีความสูงตามปกติด้วยเด็กที่เป็นเบาหวานต้องรับประทานยารักษาเบาหวานด้วย ในปัจจุบันยาที่ใช้รักษาโรคไขมันพอกตับในเด็กก็ยังมีจำกัดและยังต้อง รอดูผลในระยะยาว ดังนั้นจึงควรป้องกันโดยให้การวินิจฉัยโรคไขมันพอกตับแต่แรกเริ่มในเด็กอ้วน และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้เหมาะสม
***ข้อมูลจาก รศ.พญ.วรนุช จงศรีสวัสดิ์ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทย์ศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

#ไฟโบรสแกน
#ตรวจตับไม่ต้องเจาะตับ #ไม่เจ็บ #รู้ผลทันที #มะเร็งตับ
#ป้องกันดีกว่ารักษา #ตับเเข็ง #ไวรัสตับอักเสบบี #ไวรัสตับอักเสบซี

สนใจสอบถามรายละเอียดการตรวจตับด้วย FibroScan ได้ที่
Tel : 089-7710-104
Facebook : myliverclub

 

ตะกร้า
เริ่มพิมพ์เพื่อดูสินค้าที่คุณกำลังมองหา