ฝุ่น PM 2.5 มลพิษในอากาศไม่ใช่แค่ผลกระทบต่อสุขภาพทางเดินหายใจ แต่ยังทำให้มีปัญหาระบบสืบพันธุ์ เพราะทำให้สเปิร์มอ่อนแอลงได้ สำคัญสุดคือบั่นทอนร่างกายเราให้อายุสั้นลงได้เรื่อยๆ ฉะนั้นเมื่อไม่อยากตายผ่อนส่งก่อนวัย แนะนำให้ทุกคนเลี่ยง 7 สถานที่มีอากาศแย่ๆ และป้องกันลมหายใจตัวเองไว้ให้มากที่สุด!
ฝุ่นและมลพิษร้าย ทำเสียชีวิตง่าย มีลูกยาก!
นอกจากงานวิจัยและสถิติทั้งในและต่างประเทศที่บอกว่าอากาศเสีย ฝุ่น PM2.5 และมลพิษจะทำให้มีผู้ป่วยและเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากอากาศเป็นพิษเหล่านี้สามารถทำให้เกิดปัญหาได้ทั้งต่อระบบทางเดินหายใจ ระบบหลอดเลือด ระบบหัวใจ ระบบสมอง และเป็นมะเร็งได้แล้ว ล่าสุดยังมีข้อมูลที่พบว่ามลพิษทางอากาศอาจส่งผลให้สเปิร์มในร่างกายของผู้ชายเคลื่อนไหวช้าลง โดยเฉพาะการเคลื่อนไหว แหวกว่ายเพื่อไปผสมกับไข่ทำให้คุณภาพของสเปิร์มในคุณผู้ชายเสื่อมถอย จนอาจมีปัญหาเกี่ยวกับการเจริญพันธุ์หรือมีลูกได้อีกด้วย
ข้อมูลจากสื่อในประเทศไทย ที่ได้ลงรายงานการวิจัยจากนักวิจัยของ School of Medicine of Tongji University ในเซี่ยงไฮ้ ซึ่งได้สำรวจสเปิร์มของผู้ชาย 33,876 คนจาก 340 เมืองในจีนซึ่งมีอายุเฉลี่ยอยู่ในช่วง 34 ปี โดยแต่ละคนจะเคยสัมผัสกับฝุ่นควันและมลพิษทางอากาศในระดับที่แตกต่างกัน จากนั้นคอยตรวจวัดคุณภาพสเปิร์มของเหล่าอาสาสมัครที่จะนำไปใช้ในเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ Assisted Reproductive Technology (ART) ช่วงเดือนมกราคม-ธันวาคม 2562 ที่ผ่านมา
ซึ่งหลังจากเก็บตัวอย่างและนำมาทำการวิเคราะห์ก็พบว่า ยิ่งคุณผู้ชายที่ต้องอยู่อาศัยหรือใช้เวลาอยู่ร่วมกับมลพิษในอากาศอนุภาคเล็กเท่าไร ก็ยิ่งส่งผลทางลบต่อคุณภาพสเปิร์มมากขึ้นเท่านั้น แม้ว่าทีมวิจัยจะไม่พบความเชื่อมโยงระหว่างมลพิษกับคุณภาพสเปิร์มในแง่ของจำนวนหรือความเข้มข้น แต่พวกเขาพบว่าการเคลื่อนไหวและการแหวกว่ายของสเปิร์มกลับช้าลง นั่นหมายถึงมีส่วนทำให้สเปิร์มมีความผิดปกติ
โดยเฉพาะเมื่อสัมผัสกับฝุ่นละอองที่มีศูนย์กลางน้อยกว่า 2.5 ไมโครเมตร การเคลื่อนไหวของสเปิร์มลดลง 3.6% แต่ถ้าสัมผัสกับฝุ่นละอองอนุภาคขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 10 ไมโครเมตร การเคลื่อนไหวของตัวสเปิร์มจะลดลง 2.44% โดยนักวิจัยระบุว่า ส่วนหนึ่งที่ขนาดของมลพิษมีความสำคัญต่อคุณภาพสเปิร์ม น่าจะอธิบายได้ในทฤษฎีเดียวกับปอด ที่ยิ่งฝุ่นหรือมลพิษมีขนาดเล็กมากเท่าไร ก็จะสามารถหลุดรอดเข้าไปในปอดได้มากขึ้นเท่านั้น
งานวิจัยดังกล่าวได้รับการตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ JAMA Network Open ซึ่งนักวิจัยระบุว่า ข้อมูลชุดนี้อาจทำให้คาดการณ์ได้ว่า ฝุ่นละอองและมลพิษกำลังส่งผลกระทบต่อการสร้างสเปิร์มในระดับพันธุกรรมได้ นอกจากนี้ยังมีนักวิจัยที่ชื่อว่า Allan Pacey ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยเชฟฟิลด์ ซึ่งแม้ไม่ได้มีส่วนร่วมในงานวิจัยชิ้นนี้ แต่ก็ได้บอกว่า ที่ผ่านมามีการศึกษาหลายต่อหลายครั้ง ที่มีผลว่ามลพิษกำลังส่งผลกระทบต่อการเจริญพันธุ์ แม้ว่าจะไม่ใช่ทุกคนที่เห็นด้วย แต่ข้อมูลชุดนี้จากประเทศจีนก็เป็นอีกหนึ่งหลักฐานสำคัญที่ช่วยยืนยันว่าฝุ่น มลพิษ และคุณภาพอากาศที่แย่มีส่วนเกี่ยวข้องกันจริง
เลี่ยง 7 สถานที่อันตราย ลดเสี่ยงตายผ่อนส่ง
ดังนั้นเมื่อการสูดฝุ่น ควัน มลพิษและอากาศเสียจะส่งผลร้ายทำให้ร่างกายสามารถตายผ่อนส่งหรืออายุสั้นลงได้ เราจึงชวนมารู้จักกับ 7 สถานที่ที่เราจะต้องเลี่ยงให้ได้ เพราะเป็นแหล่งสะสมฝุ่นควันอันตรายในปริมาณมาก เพื่อเตือนให้ทุกคนหมั่นป้องกันตัวเองไว้ ไม่ให้เข้าไปอยู่ใกล้หรือและใส่ป้องกันตัวเองไว้ไม่ให้สูดอากาศเสียเข้าไปในร่างกาย ได้แก่
- สถานที่ก่อสร้างอาคาร
บริเวณโดยรอบสถานที่ก่อสร้างอาคารต่างๆ มักจะมีทั้งฝุ่นดิน หิน ทรายและปูน ซึ่งเป็นฝุ่นละอองทั้งเล็กและใหญ่ และยังมีวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างที่เป็นอันตรายต่อร่างกายได้อีกด้วย ทั้ง สี สารเคมีจากเครื่องจักรต่างๆ
- พื้นที่มีการเผาในที่โล่ง เผาทางการเกษตร
พื้นที่ที่มีการเผาจะก่อให้เกิดควันไฟ ละอองขี้เถ้า กลิ่น ความร้อน สารจากการเผาไหม้ ฝุ่น PM 2.5 และมีสารอันตรายที่ส่งผลต่อทางเดินหายใจโดยตรงเต็มไปหมด
- การจราจร ถนนที่พลุกพล่าน และมียานพาหนะปล่อยควันไอเสีย
เต็มไปด้วยควันรถยนต์ ไอเสีย เขม่า ฝุ่น PM 2.5 มลพิษที่เป็นก๊าซอันตรายลอยในอากาศ เช่น คาร์บอนมอนนอกไซด์ (CO) คาร์บอนไดออกไซด์ ( CO2) ไฮโดรคาร์บอน (Hydrocarbon) ไนตริคออกไซด์ (NO2) และไนโตรเจนออกไซด์ (NO4)
พวกอัลดิไฮด์ (Aldehyde) ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ (Sulfurdioxide) และเขม่าต่างๆ ประกอบด้วย ผงคาร์บอน (Carbon) สารประกอบของตะกั่ว (Teraelthy Lead) สารจำพวกฟีนอลส์ (Phenol) น้ำมันรถยนต์ (Fuel) สารอินทรีจำพวกไนโตร (Nitro organic) ยางเหนียว ซึ่งประกอบด้วยโปลี่ซายคลิก อโรเมติก ไฮโดรคาร์บอน (Polycyclic aromatic hydrocarbons)
- โรงงานอุตสาหกรรม โรงงานผลิต โรงงานโม่บดย่อยหิน โรงงานปูนซีเมนต์ เหมืองหิน
เพราะการประกอบอุตสาหกรรมการผลิตต่างๆ จะมีการปล่อยก๊าซ ฝุ่น PM 2.5 ควันพิษ และไอเสีย รวมถึงมีโลหะหนักและสารเคมีอันตรายที่ลอยปะปนอยู่ในอากาศมาก ทั้งยังมีสารจากพลาสติก ฝุ่นปูน หิน กลิ่นจากสารพิษ ซึ่งทั้งหมดล้วนทำให้ร่างกายเจ็บป่วยได้ทั้งแบบฉับพลัน และค่อยสะสมจนเป็นโรคร้ายในอนาคต
- สถานประกอบการ อู่ซ่อมรถ พ่นสีรถ
มีทั้งสีที่มส่วนผสมของน้ำมันและสารเคมี มีการปล่อยก๊าซเสีย สารพิษที่ใช้ในการผสมสี หรือซ่อมรถยนต์ มีเศษเหล็กมีฝุ่นทั้งขาดเล็กและใหญ่ ยิ่งหากสถานประกอบการใดต้องทำงานเกี่ยวกับสารเคมี หรือปล่อยสารไอเสีย ก็จะยิ่งทำให้ร่างกายรับพิษจากอากาศร้ายๆ นี่เข้าไปได้ทุกวัน
- เตาปิ้งย่าง
การปิ้งย่างจะก่อให้เกิดทั้งความร้อน ควัน และเขม่าจากการเผาไหม้ ซึ่งควันจากการปิ้งย่างทำให้เกิดฝุ่น PM 2.5 ฝุ่นละอองที่แขวนลอยอยูในอากาศ ที่สามารถตกค้างในปอดได้ มีสารอินทรีย์ระเหยง่าย (Volatile Organic Compounds, VOCs) ทําให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยแบบเฉียบพลัน และเรื้อรัง มีก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ที่สามารถจับกับเลือดได้ดีกว่าออกซิเจนถึง 200-250 เท่า จึงได้ชื่อว่าเป็น “มลพิษไร้สีไร้กลิ่น” หรือ “ฆาตกรเงียบ” เมื่อได้รับก๊าซนี้ ในปริมาณมากจะทําให้ร่างกายเกิดภาวะขาดออกซิเจน และจะเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ นอกจากนี้ร่างกายยังได้รับสารพีเอเอช (PAHs) ที่ลอยขึ้นมาพร้อมเขม่าควัน ที่เกิดจากไขมันหรือน้ำมันหยดลงบนเตาไฟ ทำให้เกิดการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง
- สูบบุหรี่
ควรอยู่ให้ห่างพื้นที่ที่มีสูบบุหรี่ รวมถึงงดการสูบบุหรี่ และการรับควันบุหรี่จากคนอื่นๆ เพราะควันจากบุหรี่มีสารพิษร้ายที่ทำลายร่างกายโดยตรงหลายชนิด ทั้งยังมีงานวิจัยที่ระบุว่าการสูบบุหรี่ 1 มวน เทียบเท่ากับการรับเอาฝุ่นพิษ PM 2.5 เข้าสู่ร่างกาย 22 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร/วัน และแม้แต่คนที่ไม่ได้สูบ แต่รับควันก็ยังทำให้ได้รับฝุ่นพิษร้ายนี้เข้าสู่ร่างกายได้ด้วย นอกจากนี้สำหรับบุหรี่ไฟฟ้าแม้จะยังไม่มีรายงานระดับ PM 2.5 ที่ผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้าเองได้รับ แต่องค์การอนามัยโลกรายงานว่า ระดับ PM 2.5 ในควันมือสองจากบุหรี่ไฟฟ้า สูงมากกว่าค่าธรรมดาในอากาศ 6-86 เท่า และระดับ PM 1.0 ซึ่งมีขนาดเล็กกว่า ก็มีระดับสูงกว่าในอากาศธรรมดา 14-40 เท่า ฉะนั้นหากเลี่ยงได้ควรอยู่ให้ไกลบุหรี่ดีที่สุด
ปกป้องจมูก ไม่ให้สูดอากาศพิษ ด้วยสเปรย์พ่นจมูกชนิดผง
หากเราไม่สามารถเลี่ยงสถานที่ต่างๆ ที่เสี่ยงต่อการได้รับฝุ่นและมลพิษได้ เพราะทุกวันนี้แทบทุกพื้นที่ต่างมีโรงงาน ควันรถและอากาศเสีย เราจึงควรมีอุปกรณ์ที่ช่วยป้องกันตัวเองจากฝุ่นและมลพิษร้ายในอากาศไว้ใช้ชีวิตประจำวัน นั่นคือ สเปรย์พ่นจมูกชนิดผง นาซัลลีซ พีเอ็ม ชีลด์ (Nasaleze PM Shield) ที่ช่วยป้องกันฝุ่น PM 2.5 และสารมลพิษในอากาศด้วยสารสกัดจากธรรมชาติ 100 % มีการศึกษาที่ยืนยันประสิทธิภาพในการช่วยดักจับฝุ่น PM 2.5 และสารมลพิษในอากาศไม่ให้เข้าสู่เยื่อบุจมูกได้จริง ด้วยคุณสมบัติพิเศษต่างๆ ดังนี้
- ผลิตจากสารสกัดธรรมชาติ 100% มีส่วนประกอบของผงเซลลูโลส (HPMC) 95% และผงเลม่อน 5% ที่ช่วยดักจับและป้องกัน ฝุ่น PM 2.5 สารมลพิษในอากาศไม่ให้เข้าสู่เยื่อบุจมูกและทางเดินหายใจได้
- ทำงานโดยการเปลี่ยนผงสเปรย์ให้มีลักษณะเป็นเจลใสในจมูก เพื่อดักจับป้องกันไม่ให้ฝุ่นละอองขนาดเล็ก ฝุ่น PM 2.5 สารมลพิษในอากาศเข้าสู่ในเยื่อบุจมูก
- ป้องกันฝุ่น PM 2.5 และสารมลพิษได้จริง ผ่านการศึกษาว่ามีประสิทธิภาพในการช่วยจับฝุ่น PM 2.5 ได้ถึง 94% เป็นระยะเวลานานถึง 6 ชั่วโมง
- ออกฤทธิ์เร็วภายใน 2 นาที พ่น 1 ครั้ง ป้องกันฝุ่นได้ 6 ชั่วโมง พ่นวันละ 2-3 ครั้ง หรือทุก 6-8 ชั่วโมง จะช่วยป้องกันฝุ่น PM 2.5 และสารมลพิษในอากาศเข้าสู่เยื่อบุจมูกได้ตลอดวัน
- อ่อนโยน ปลอดภัย ไม่ใช่ยา ไม่มีผลข้างเคียง ใช้ได้ในเด็กวัย 18 เดือนขึ้นไป คุณแม่ตั้งครรภ์และให้นมบุตร
- มีเอกสารรับรอง ได้รับใบอนุญาตโฆษณาเครื่องมือแพทย์จาก อย. เลขที่ ฆพ.673/2564
- มีใบอนุญาตนำเข้าเครื่องมือแพทย์ เลขที่ GBR6304847
- ผลิตในประเทศอังกฤษ นิยมใช้กว่า 50 ประเทศทั่วโลก
- ใช้ง่าย คุ้มค่า เพียงเปิดฝา เขย่าขวด บีบพ่นผงเข้าไปในรูจมูกทั้ง 2 ข้าง 1 ขวดใช้ได้ถึง 200 ครั้ง
#Nasaleze #นาซัลลีซ #สเปรย์พ่นจมูกชนิดผง #NasalezePMShield #PM2.5
#สเปรย์พ่นจมูกดักจับฝุ่นขนาดเล็ก #MadeInEngland #ระวังของเลียนแบบ
#เพิ่มการ์ด #ExtraProtection #นวัตกรรมใหม่ #innovation #มลพิษ #อากาศเสีย
#ฝุ่นควัน #ควันท่อไอเสีย #pollution #วัณโรค #ปอดอักเสบ #เผาป่า #ไฟป่า
Line : @nasaleze (มี@ ด้านหน้าด้วยนะคะ) หรือ คลิก https://lin.ee/Iy3ufdh