ปัจจุบันแม้จะมีโรคอุบัติใหม่และเชื้อโรคร้ายกลายพันธุ์ต่างๆ แต่เทคโนโลยีทางการแพทย์ ทั้งด้านการรักษา การสร้างภูมิต้านทาน และเครื่องมืออุปกรณ์ในการป้องกันยับยั้ง ก็พัฒนานวัตกรรมให้ก้าวตามไปอย่างไม่หยุดเช่นกัน เหมือนกับตัวอย่าง 5 นวัตกรรมเหล่านี้ ที่ถูกวิจัยและพัฒนามาอย่างพิถีพิถันเพื่อป้องกันไวรัสให้กับมนุษย์เรา
5 นวัตกรรมใหม่ รู้ไว ป้องกันไวรัสได้จริง
หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าในเมืองไทยบ้านเรามีนวัตกรรมใหม่ๆ ที่เรียกว่าล้ำหน้าและเจ๋งไม่แพ้ใคร เพราะเป็นนวัตกรรมทางการแพทย์ที่สามารถช่วยให้วงการแพทย์รวมถึงบุคคลทั่วไปอย่างเราห่างไกลจากโรคภัยได้มากยิ่งขึ้น เพราะเครื่องมือหรืออุปกรณ์เหล่านี้มีการทำงานช่วยได้ในหลายรูปแบบ อาทิ ช่วยในการดักจับ ตรวจหา ป้องกันเชื้อโรค และตรวจคัดกรองโรคได้จริง ทั้งยังมีข้อดีในแง่ที่บางชนิดนั้น เป็นเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่หาซื้อหรือใช้บริการได้ในแบบที่เข้าถึงไม่ยาก และมีคุณภาพในการป้องกันเชื้อโรคได้ดี ทำให้เราลดความเสี่ยงในการติดเชื้อหรือห่างไกลจากเชื้อไวรัสร้ายได้มากยิ่งขึ้น มาดูกันว่านวัตกรรมดีๆ เหล่านี้มีอะไรบ้าง
1.สเปรย์พ่นจมูกชนิดผง เป็นอุปกรณ์ที่กำลังมาแรงแซงโค้ง เพราะมีขนาดเล็กพกพาง่าย หาซื้อได้ทั่วไป
ที่สำคัญยังเป็นนวัตกรรมที่ผลิตจากธรรมชาติ เพื่อดักจับและป้องกันเชื้อโรค ไวรัส ที่แพร่กระจายในอากาศได้ ทั้งยังมีงานวิจัยยืนยันว่าช่วยลดอาการรุนแรงของโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ เช่น ไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ได้ ลดระยะเวลาในการรักษาโรคติดเชื้อทางเดินหายใจได้อีกด้วย
- เป็นสเปรย์พ่นจมูกชนิดผง ที่ผลิตจากสารสกัดธรรมชาติ 100% โดยเป็นผงเซลลูโลส(HPMC) 93% จากเปลือกสนอังกฤษ ผงกระเทียมป่ายุโรป 5% และผงเปปเปอร์มิ้นท์ 2%
- มีคุณสมบัติเปลี่ยนผงสเปรย์ให้เป็นเจลในจมูก เพื่อดักจับ ป้องกันไวรัสเข้าสู่เยื่อบุโพรงจมูก รวมถึงป้องกันการเกิดอาการแพ้ในเยื่อบุโพรงจมูก (Methyl-cellulose powder for prevention and management of nasal symptoms. Expert Review Of Respiratory Medicine, 2017 Vol. 11, No. 11, 885–892.)
- สามารถทำให้เชื้อโรคและไวรัสมีฤทธิ์อ่อนลง ลดความเสี่ยงติดเชื้อรุนแรง มีผลการศึกษายืนยันประสิทธิภาพในการ
- ป้องกันไข้หวัด ช่วยลดระยะเวลาเจ็บป่วย ลดความรุนแรงของไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ และไวรัสอื่นๆ ได้ (Hydroxypropyl Methylcellulose-Based Nasal Sprays Effectively Inhibit In Vitro SARS-CoV-2 Infection and Spread. Viruses 2021, 13, 2345. https://www.mdpi.com/1999-4915/13/12/2345 )
- สามารถใช้ในการรักษาร่วมกับยา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่
- อ่อนโยน และมีความปลอดภัยสูง ผ่านการทดสอบทางคลินิก ไม่มีส่วนผสมของยา ไม่มีผลข้างเคียง ไม่มีฤทธิ์ทำให้ง่วงนอน สามารถใช้ได้ในเด็กวัย 3 ปีขึ้นไป คุณแม่ตั้งครรภ์ คุณแม่ให้นมบุตร และผู้สูงอายุ
- อนุมัติโดยอย. มีใบอนุญาตนำเข้าเครื่องมือแพทย์ เลขที่ GBR6304847
- ได้รับใบอนุญาตโฆษณาเครื่องมือแพทย์จาก อย. เลขที่ ฆพ.1059/2564
- จำหน่ายไปแล้วกว่า 20 ล้านขวด ใน 50 ประเทศทั่วโลก มีอย. ใน 40 ประเทศ
- พ่นเพียง 1 ครั้ง ออกฤทธิ์เร็วภายใน 2 นาที นาน 6 ชั่วโมง พ่นวันละ 2-3 ป้องกันไวรัสได้ทั้งวัน
- ควรใช้สเปรย์พ่นจมูกก่อนออกจากบ้าน เมื่อต้องเดินทาง หรืออยู่ท่ามกลางกลุ่มคนหนาแน่น สถานที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อจากไวรัสและแบคทีเรีย
- ขนาดเล็ก สะดวกพกพาง่าย หนึ่งขวดสามารถสเปรย์ได้ถึง 200 ครั้งหรือใช้ได้ประมาณ 30-50 วัน
-
ฟิล์มทองแดง เป็นนวัตกรรมใหม่อย่างหนึ่งที่ใช้โลหะทองแดงมาทำให้เกิดปฏิกิริยากับเชื้อโรคและสามารถฆ่า
เชื้อโรคได้ โดยการทำงานจะเกิดการ Oxidation เมื่อมีเชื้อไวรัส หรือเชื้อโรคตกกระทบลงบนพื้นผิว หรือแม้แต่ลอยเข้ามาใกล้ อิเล็กตรอนที่เกิดขึ้นจะเริ่มทำปฏิกิริยา โดยการเจาะให้ผนังเซลล์ของเชื้อไวรัสเปิด เมื่อผนังเซลล์เปิด เชื้อโรคก็จะเริ่มพิการและทำงานได้ไม่เต็มที่ 100% จนกระทั่งค่อยๆ ตายไป โดยมีการรายงานในวารสารวิชาการ เปรียบเทียบระยะเวลาในการทำให้เชื้อโรคตายบนพื้นผิวของทองแดง สแตนเลส และทองเหลือง และพบว่า ทองแดง เป็นโลหะชนิดที่มี sensitivity สูง เมื่อมีเชื้อโรคเข้ามาสัมผัสบนพื้นผิวของทองแดงที่มีความบริสุทธ์ 95% ขึ้นไป ผลการทดลองพบว่า เชื้อโรคตายภายใน 2.5 นาที
การค้นพบดังกล่าว นำมาซึ่งความนิยมในการใช้ทองแดงในรูปแบบที่หลากหลาย ก่อนหน้านี้ในต่างประเทศมีการนำทองแดงมาขึ้นรูปเป็นท่อน้ำ ด้ามจับประตู รวมถึงเป็นวัสดุที่ใช้ทำพื้นผิวหลาย ๆ แบบ เพราะมีคุณสมบัติกำจัดเชื้อโรค แม้แต่แวดวงการแพทย์ก็มีการนำทองแดงมาใช้งานเป็นเครื่องมือต่าง ๆ เช่น ท่อ ที่ใช้ลำเลียงของเหลวเข้าสู่ตัวผู้ป่วย โดย รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ อาจารย์ประจำภาควิชาเคมี คณะศิลปศาสตร์และวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ให้ความเห็นว่า “แผ่นฟิล์มทองแดง” ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่จากเกาหลี กำลังจะเข้ามามีบทบาทสำคัญมากขึ้นในฐานะ New Normal ของเราทุกคน เนื่องจากก่อนที่จะมีโควิด-19 โลกของเราเคยมีโคโรนาไวรัสตัวอื่นเข้ามาก่อน ไม่ว่าจะเป็นเมอร์ส ซาร์ส ไข้หวัดใหญ่ หรือไข้หวัดนก ซึ่งเมอร์สและซาร์สก็ได้มีการทดสอบกับทองแดง แล้วพบว่ามีคุณสมบัติในการทำให้เชื้อโรคตาย ดังนั้น ทองแดงจึงไม่ได้มีศักยภาพในการฆ่าแบคทีเรียเพียงอย่างเดียว แต่ยังสามารถฆ่าเชื้อไวรัสในกลุ่มโคโรนาได้ด้วย อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญได้เตือนว่าหากใช้งานทองแดงบริสุทธิ์อาจมีผลข้างเคียงที่อันตราย เพราะทองแดงมีคุณสมบัตินำไฟฟ้ารวมถึงมีเนื้อสัมผัสแข็งและคม แต่การใช้ “ฟิล์มทองแดง” จะปลอดภัยต่อคนใช้งานมากกว่าเพราะเป็นการใช้พลาสติกพอลีเมอร์มาเคลือบนาโนคอปเปอร์ หรือการใส่เนื้อทองแดงเข้ามาในแผ่นพลาสติก จึงปลอดภัยกว่าในแง่ของการไม่นำไฟฟ้า และสามารถเข้ารูปได้ง่าย ทั้งยังฆ่าเชื้อแบคทีเรียและไวรัสได้จริงอีกด้วย
-
วัคซีนแบบพ่นจมูก โดยนักวิจัยไทย เป็นการพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019
(COVID-19) แบบพ่นจมูก ชนิด Adenovirus-based และ Influenza-based จากทีมวิจัยไวรัสวิทยาและเซลล์เทคโนโลยี
จากศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ได้กำลังทำอยู่มีความคืบหน้าและให้ผลเป็นที่น่าพอใจ โดย ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์และการจัดการ ไบโอเทค สวทช. ได้ให้ข้อมูลว่า ขณะนี้ต้นแบบวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 แบบพ่นจมูก ได้พัฒนาออกมา 2 ชนิด คือ วัคซีนชนิด Adenovirus ที่มีการแสดงออกของโปรตีนสไปค์ ออกแบบโดยการพ่นเข้าจมูกผ่านละอองฝอย รูปแบบนี้น่าจะเป็นวัคซีนที่ใกล้เคียงกับหลายๆ ที่ ซึ่งกำลังทดสอบในเฟส 1-2 ของทีม สวทช. ผ่านการทดสอบในหนูทดลองที่ฉีดเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้ว พบว่า หนูทดลองนอกจากไม่มีอาการป่วย ยังมีน้ำหนักขึ้นสูงกว่ากลุ่มที่ฉีดเข้ากล้ามอย่างเห็นได้ชัด ผลการทดสอบความปลอดภัยไม่มีปัญหา และกำลังทดสอบวัคซีนนี้ในอาสาสมัครมนุษย์ในรูปแบบที่สร้างจากไวรัสสายพันธุ์เดลต้า เชื่อว่าวัคซีนชนิดนี้อาจเป็น “ความหวังใหม่” ที่จะมาปกป้องชีวิตคนจากไวรัสร้ายชนิดนี้ได้ เพราะทางเดินหายใจเป็นจุดที่เชื้อไวรัสจะเข้าสู่ร่างกาย การให้วัคซีนด้วยการพ่นที่จมูกจะทำให้เกิดแอนติบอดีตรงบริเวณทางเดินหายใจ ทำให้เชื้อไม่สามารถเข้าสู่ร่างกายได้ (https://www.nstda.or.th/home/news_post/adenovirus-based/)
-
ตู้พ่นซิลเวอร์นาโนฆ่าเชื้อ เป็นตู้พ่นฆ่าเชื้อที่ใช้นวัตกรรม Nanotechnology Sanitizing Spray ที่มีส่วนผสมของ
อนุภาคนาโนซิลเวอร์ (Bioactive Silver Ion) หรือ “โลหะเงิน” และน้ำยาฆ่าเชื้อที่สามารถทำลายผนังเซลล์ของเชื้อโรค ทำให้เชื้อตาย พร้อมทั้งทำลายโปรตีนทำให้เชื้อไม่สามารถแบ่งตัวต่อไปได้ ออกฤทธิ์ปกป้องนาน 24 ชั่วโมง ช่วยเสริมเกราะป้องกันให้กับบุคลากรทางการแพทย์และประชาชนที่มาใช้บริการโรงพยาบาล ถือเป็นตู้ที่ผสมผสานความรู้ด้านวิศวกรรมกับชีวการแพทย์ (Bio-Medical) คิดค้นและพัฒนาโดยทีมสหสาขาการจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพป้องกันเชื้อโรคผสานกับนวัตกรรมการฆ่าเชื้อโรคด้วยการปล่อยอนุภาคซิลเวอร์นาโน ผ่านหัวฉีดขนาดเล็กระดับไมครอน เพื่อให้ไอของสารดังกล่าว ไปจับกับเชื้อไวรัส แบคทีเรีย และเชื้ออื่น ๆ ที่ติดมากับตัวคน ส่งผลทำให้ลดความเสี่ยงจากเชื้อโรคได้ และอนุภาคเหล่านี้ก็จะสลายไปเมื่อมีการชำระล้างร่างกายจึงไม่เป็นอันตรายอีกด้วย
-
Baiya Rapid COVID-19 ชุดตรวจคัดกรองวินิจฉัยโรคอย่างรวดเร็ว นวัตกรรมที่ศูนย์บริการสุขภาพแห่งจุฬาฯ
เป็นการทดสอบที่อาศัยหลักการทางภูมิคุ้มกันร่างกาย (Serology test) ซึ่งเป็นการตรวจหาแอนติบอดี (IgG & IgM) ในเลือด ซีรัม หรือพลาสมา โดยใช้ชุดตรวจวินิจฉัยโรคอย่างรวดเร็ว (Rapid diagnostic test kit) ใช้เวลาเพียง 10-15 นาทีในการตรวจวินิจฉัยเพื่อคัดกรองเบื้องต้นแบบว่องไว ทำให้สามารถส่งต่อไปยังสถานพยาบาลเพื่อยืนยันผลด้วยวิธีมาตรฐานต่อไป และช่วยให้แยกตัว กักตัวออกเพื่อป้องกันความเสี่ยงในการแพร่ระบาดได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น
#ติดเชื้อทางเดินหายใจ #หวัด #ไข้หวัดใหญ่
#หวัดป้องกันได้ #เชื้อโรคลอยในอากาศ
#นาซัลลีซ #สเปรย์พ่นจมูก #ไม่ใช่ยา #ดักจับเชื้อโรค
#นาซัลลีซทราเวล #ExtraProtection #Germblocker #Invisible_mask #ป้องกันดีกว่ารักษา
Line : @nasaleze (มี@ ด้านหน้าด้วยนะคะ) หรือ คลิก https://lin.ee/Iy3ufdh