รีบสังเกตดูสิว่าลูกเป็นภูมิแพ้หรือไม่? อาการน้ำมูกไหล จาม คัดจมูกบ่อยๆ เป็นๆ หายๆ อาจไม่ใช่หวัด แต่ลูกอาจเป็นภูมิแพ้ ที่ต้องรีบป้องกันและแก้ไขไม่ให้กำเริบจนเรื้อรังลุกลามได้ เพราะหากปล่อยไว้จะส่งผลเสียทั้งต่อสมอง พัฒนาการและการเรียนได้ในอนาคต
“ภูมิแพ้” ทำลูกป่วยได้ตั้งแต่เล็กจนโต
ภูมิแพ้ในเด็ก สามารถเกิดขึ้นได้ตั้งแต่ลูกยังเล็กในวัยเบบี๋ คือเริ่มป่วยได้ตั้งแต่วัยไม่กี่เดือน โดยเด็กบางคนแพ้นมวัว มีอาการอาเจียน ท้องเสีย บางคนมีอาการมากจนถ่ายเป็นเลือดได้ บางคนกินนมแล้วมีผื่นรุนแรง มีอาการหอบเหนื่อย บางคนแพ้รุนแรงจนช็อค หยุดหายใจและหมดสติ เมื่อโตขึ้นอยู่ในวัยได้รับอาหารเสริม อาหารชนิดต่างๆ เช่น ไข่ ถั่วเหลือง แป้งสาลี ก็สามารถก่อให้เกิดอาการแพ้ได้เช่นเดียวกับนมวัว ทั้งนี้อาการแพ้ในเด็กมักจะเกิดขึ้นกับเด็กที่มีแนวโน้มจะเป็นภูมิแพ้อยู่แล้ว โดยสังเกตจากประวัติของคนในครอบครัวที่เป็นโรคภูมิแพ้ ฉะนั้นการเริ่มให้อาหารหรือเปลี่ยนอาหารให้กับเด็กเล็กจึงควรทำด้วยความระมัดระวัง ควรค่อยๆ เริ่มทีละชนิด
นอกจากนี้ในเด็กเล็กยังมักพบโรคภูมิแพ้ผิวหนังได้บ่อย ทำให้ผิวหนังเป็นผื่นแดงคัน ขึ้นบนแก้ม ลำคอ แขน ขา มักจะเริ่มเป็นตั้งแต่เด็กอายุ 3-4 เดือน เวลาที่ผื่นลุกลามรุนแรงขึ้น จะมีสีแดงจัดและมีน้ำเหลืองเยิ้ม เด็กที่มีผื่นในลักษณะนี้บางคนมีอาการกำเริบเวลาอากาศแห้งหรือหลังทานอาหารบางชนิดเช่น ไข่ และ นมวัว บางรายอาจแพ้ไรฝุ่น เด็กบางคนจะมีผื่นแบบนี้ไปจนอายุ 4-5 ขวบ แต่ความรุนแรงมักจะลดลงเมื่อโตขึ้น
จนเมื่อลูกเริ่มโตขึ้นถึงช่วงวัย 2-5 ปี โรคภูมิแพ้ยอดฮิตที่เป็นกันมากและรู้จักกันทั่วไป คือโรคแพ้อากาศหรือจมูกอักเสบจากภูมิแพ้จะเริ่มปรากฎชัดขึ้นและทำลูกป่วยเรื้อรังได้ไปจนโต โรคนี้เกิดจากการแพ้สารปนเปื้อนในอากาศหรือสารก่อภูมิแพ้ โดยเด็กจะมีอาการเหมือนเป็นหวัด แต่จะเป็นบ่อยมากเกือบทุกเดือน หรือมีอาการนานเกินกว่า 10 วัน อาการที่เด่นชัด ได้แก่ อาการคันจมูก ชอบขยี้จมูก จามหลายครั้งติดกันตอนเช้า บางคนมีอาการคันตาชอบขยี้ตาร่วมด้วย
สิ่งสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความสนใจคือเมื่อลูกมีอาการของโรคแพ้อากาศ เป็นระยะเวลานานๆ จะกระตุ้นให้ต่อมทอนซิลและอะดีนอยด์ในช่องคอโต เกิดการหายใจลำบาก หายใจมีเสียงดัง นอนกรน นอนหลับไม่สนิท รวมทั้งเกิดการหยุดหายใจ จนเกิดผลกระทบต่อหัวใจและปอดในระยะยาว เด็กบางรายมีไซนัสอักเสบเรื้อรังได้อีกด้วย
สรุปโรคภูมิแพ้ยอดฮิตที่พบในเด็กบ่อยๆ แบ่งได้ 4 ประเภท ดังนี้
- โรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ หรือโรคแพ้อากาศ เป็นโรคที่พบได้มากที่สุด โดยมักพบในเด็กอายุ 2 ปีขึ้นไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ เพราะโรคนี้หากไม่รักษาหรือดูแลตัวเองให้ห่างไกลจากสารก่อภูมิแพ้ก็จะทำให้ป่วยเรื้อรังไปจนโต และเกิดอาการแทรกซ้อนต่างๆ ตามมาได้ตั้งแต่น้อยไปจนถึงมาก อาการของโรคนี้จะกำเริบขึ้นเมื่อลูกเจอสารภูมิแพ้ ไรฝุ่น ขนสัตว์ เชื้อรา อากาศเย็น หรือสิ่งลูกแพ้ ทำให้มีน้ำมูกใสไหลตลอดเวลา โดยเด็กจะมีอาการเหมือนเป็นหวัด แต่จะเป็นบ่อยมากเกือบทุกเดือน หรือมีอาการนานเกินกว่า 10 วัน หรือเป็นๆ หายๆ ช่วงเช้าและช่วงกลางวัน อาการที่เด่นชัดอื่นๆ ได้แก่ อาการคันจมูก ชอบขยี้จมูก จามหลายครั้งติดกันตอนเช้า บางคนมีอาการคันตาชอบขยี้ตาร่วมด้วย หรือคัดจมูกเวลาโดนสิ่งกระตุ้นหรือสารภูมิแพ้ ทำให้หายใจไม่สะดวก
- โรคหอบหืด มักเกิดในเด็กอายุ 3-7 ปี จนถึงวัยผู้ใหญ่ แสดงอาการเมื่อเด็กไปสัมผัสทางการสูดดม หายใจในอากาศที่มีสารก่อภูมิแพ้หรือควันพิษ โรคหอบหืดเกิดจากทางเดินหายใจที่บวม ตีบแคบลง ซึ่งถูกกระตุ้นโดยปฏิกิริยาภูมิแพ้หรือสาเหตุอื่นๆ ร่วมด้วย ทำให้ลูกหายใจเสียงดัง “วี้ด” หอบ แน่นหน้าอก หรืออาการไอติดกันเป็นชุดๆ อาจเกิดอาการในตอนกลางคืน ขณะออกกำลัง หรือขณะเป็นหวัด หรือติดเชื้อทางเดินหายใจได้
- โรคแพ้อาหาร ส่วนใหญ่เกิดในเด็กอายุ 1 ปี เพราะช่วงขวบปีแรกมักได้รับโปรตีนแปลกปลอมที่จะก่อให้เกิดการแพ้มาจากอาหารที่รับประทาน เช่น โปรตีนจากนมวัว โดยอาจได้รับโดยตรงจากการดื่มนมผสม หรืออาจแพ้ผ่านมาทางน้ำนมของแม่ ต่อมาเมื่อเริ่มกินอาหารเสริมพบว่าอาหารที่ทำให้แพ้บ่อยได้แก่ ไข่ขาว ไข่แดง แป้งสาลี ถั่วเหลือง ถั่วลิสง อาหารทะเล ที่ทำให้เกิดอาการแพ้ได้หลายระบบ เช่น เป็นผื่นลมพิษ ผื่นแดงคันเรื้อรัง ถ่ายมีมูกเลือดปน อาเจียน ถ่ายเหลว ส่วนอาการทางเดินหายใจพบได้น้อย เช่น หายใจครืดคราด มีเสมหะ น้ำมูกเรื้อรังมักพบในทารกที่แพ้นมวัว
- โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง มักพบในลูกเล็กวัย 2-3 เดือน ซึ่งอาการที่เห็นได้ชัดคือเป็นผื่นตุ่มแดงคัน เป็นแผ่นแดง ลอก และเป็นขุย มีอาการคันมาก และการกระจายตามผิวหนังบริเวณต่างๆ เช่น ด้านนอกของแขน และขา ที่สัมผัสสารระคายเคือง หรือมีการเสียดสี หากในเด็กโต มักจะเป็นผื่นหนา มีรอยเกา บริเวณลำคอ ข้อพับของแขนและขา
อย่าให้คุณหนูๆ มีอาการภูมิแพ้กำเริบ
เพราะการที่ลูกน้อยมีอาการภูมิแพ้ตั้งแต่วัยเด็ก ไม่ใช่แค่ส่งผลเสียต่อสุขภาพของลูกเท่านั้น แต่ยังมีผลกระทบที่สำคัญต่อพัฒนาการในปัจจุบันและการเติบโตทั้งทางสมอง ร่างกายและอารมณ์ในอนาคตของลูกน้อย ยิ่งในช่วงหลายปีมานี้มีข้อมูลจากองค์กรโรคภูมิแพ้โลก ที่เผยว่าปัจจุบันเด็กไทยป่วยเป็นโรคภูมิแพ้มากเฉลี่ย 1 ใน 2 คน คุณพ่อคุณแม่จึงควรใส่ใจระมัระวังตลอดจนป้องกันดูแล ไม่ให้ลูกรักต้องป่วยเป็นภูมิแพ้หรือมีอาการภูมิแพ้กำเริบจนเป็นอันตรายได้ เนื่องจากหากเด็กๆ ป่วยเป็นโรคภูมิ จะมีผลเสียทั้งต่อการเติบโตและพัฒนาการทุกด้านรวมถึงมีผลกระทบอันตรายที่สำคัญต่อลูก 5 ด้าน นั่นคือ
- ลูกมีความเครียด เพราะร่างกายต้องประสบกับอาการของโรคภูมิแพ้อยู่บ่อยๆ จนรบกวนการเล่นและการใช้ชีวิต ทำให้ลูกหงุดหงิดที่น้ำมูกไหล คัดจมูก และยังอาจทำให้ลูกอายเพื่อน อายคนอื่น จิตใจหดหู่ อารมณ์ไม่ดี หงุดหงิดง่ายตามมา
- ทำให้ลูกขาดสมาธิในการเรียน เนื่องจากอาการภูมิแพ้ที่รบกวนเรื้อรัง น้ำมูกไหลตลอดเวลา หงุดหงิด ไม่มีสมาธิในการเรียน ไม่สนุกในการเล่น และไม่พร้อมต่อการเรียนรู้สิ่งใหม่ ทำให้สมองพัฒนาได้ไม่เต็มที่
- ลูกอาจเป็นโรคระบบทางเดินหายใจเรื้อรังไปจนโต เช่น โรคหอบหืดเรื้อรัง ทำให้ร่างกายสุขภาพร่างกายไม่แข็งแรง นอนหลับไม่เพียงพอ ต้องพกยาติดตัวตลอดเวลา ออกกำลังกายไม่ได้ เติบโตได้ไม่เต็มที่ จนอาจทำให้เติบโตช้ากว่าเด็กวัยเดียวกันได้
- ส่งผลเสียต่อพัฒนาการ ทำให้ลูกมีพัฒนาการช้า หากมีอาการแพ้รุนแรง อาจกระทบต่อพัฒนาการทั้งด้านสมอง การเจริญเติบโตของร่างกาย ไม่สูงใหญ่หรือแข็งแรงเต็มที่ อารมณ์จิตใจไม่ดี และไม่มีพัฒนาการทางสังคมกับคนอื่นๆ เนื่องอาการแพ้ที่เป็นบ่อยทำให้ไม่แข็งแรง
- นอนหลับไม่เพียงพอ ส่งผลต่อการเจริญเติบโตไม่เต็มที่ เพราะการหายใจที่ไม่สะดวกอาจไปรบกวนการนอนหลับพักผ่อนของลูกได้ ทำให้ฮอร์โมนเพื่อการเติบโตหรือโกรธ์วฮอร์โมนหลั่งไม่เต็มที่ในช่วงกลางคืน
ฉะนั้นรู้อย่างนี้แล้วแนะนำคุณพ่อคุณแม่ป้องกันและดูแลไม่ให้ลูกเป็นภูมิแพ้ได้ตั้งแต่ยังเล็กจะดีที่สุด แต่กรณีที่ลูกเป็นภูมิแพ้อยู่ คุณพ่อคุณแม่ควรช่วยดูแลควบคุมไม่ให้ลูกมีอาการภูมิแพ้กำเริบได้ง่ายหรือเป็นเรื้อรัง เพราะอาจนำไปสู่โรคอันตรายในอนาคต
หยุด!สารก่อภูมิแพ้ที่จมูก ไม่ให้ลูกอาการกำเริบ คำแนะนำจากแพทย์ในการป้องกันภูมิแพ้ คือหากรู้ว่าลูกแพ้สิ่งไหน ต้องหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นหรือสารก่อภูมิแพ้ที่ทำให้ลูกเกิดอาการแพ้ เพราะการหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น นอกจากจะช่วยป้องกันโรคกำเริบแล้วยังช่วยป้องกันอาการแทรกซ้อนได้ด้วย เราจึงขอแนะนำทางเลือกใหม่ในการป้องกันสารก่อภูมิแพ้ไม่ให้เข้าสู่รางกายลูกรักได้ง่ายๆ แบบที่ไม่ใช่ยา แต่เป็นนวัตกรรมใหม่ที่สกัดจากธรรมชาติและป้องกันสารก่อภูมิแพ้ไม่ให้เข้าจมูกลูกได้จริง นั่นคือ สเปรย์พ่นจมูกชนิดผง นาซัลลีซ ชิลเดรน อัลเลอจี บลอคเกอร์ ( Nasaleze Children Allergy Blocker)
- ผลิตจากสารสกัดธรรมชาติ 100% มีส่วนประกอบของผงเซลลูโลส (HPMC) 97% และผงสตรอว์เบอร์รี่ 3% มีประสิทธิภาพป้องกันสารก่อภูมิแพ้ในอากาศไม่ให้เข้าสู่เยื่อบุจมูก จนลูกมีอาการแพ้กำเริบได้
- สร้างเกราะป้องกันในจมูกให้ลูก โดยเปลี่ยนผงสเปรย์เป็นเจลใสในจมูก เพื่อดักจับและป้องกันไม่ให้สารก่อภูมิแพ้ในอากาศเข้าสู่เยื่อบุจมูกได้ พร้อมกลไกช่วยลดการแตกตัวของแกรนูลในแมสเซลล์ ลดการหลั่งฮีสตามีน ทำให้สามารถป้องกันการเกิดอาการภูมิแพ้หรือแพ้อากาศได้
- ได้รับการแนะนำจากบุคลากรทางการแพทย์ ผ่านการทดสอบทางคลินิกมากกว่า 35 การศึกษา ในผู้ป่วยมากกว่า 1,000 คน มีผลการศึกษายืนยันประสิทธิภาพในการลดอาการจาม คัดจมูก น้ำมูกไหล เป็นส่วนหนึ่งในแนวทางการรักษาโรคภูมิแพ้ ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการทางการแพทย์ชั้นนำหลายฉบับ รวมถึงได้รับรางวัลต่างๆ
- ผลิตในประเทศอังกฤษ มาตรฐานระดับสากลจากสมาคมโรคภูมิแพ้แห่งสหรัฐอเมริกา (American Academy of Allergy Asthma & Immunology) ได้ระบุว่าเป็นตัวป้องกันสารก่อภูมิแพ้ (Allergen blocker) ได้
- ออกฤทธิ์เร็ว ป้องกันได้ทั้งวัน พ่นเพียง 1 ครั้ง ออกฤทธิ์ใน 2 นาที สามารถป้องกันสารก่อภูมิแพ้ได้ถึง 6 ชั่วโมง พ่นวันละ 2-3 ครั้ง หรือทุก 6-8 ชั่วโมง จะช่วยป้องกันสารก่อภูมิแพ้ในอากาศเข้าสู่เยื่อบุจมูกได้ตลอดวัน
- อ่อนโยนปลอดภัย ไม่ใช่ยา ใช้ได้กับลูกน้อยวัยตั้งแต่ 18 เดือนขึ้นไป คุณแม่ตั้งครรภ์และให้นมบุตร ไม่มีส่วนผสมของยา ไม่มีผลข้างเคียง ไม่มีฤทธิ์ทำให้ง่วงนอน
- ผ่านการตรวจสอบและมีเอกสารรับรอง ได้รับใบอนุญาตโฆษณาเครื่องมือแพทย์จาก อย. เลขที่ ฆพ.673/2564 และมีใบอนุญาตนำเข้าเครื่องมือแพทย์ เลขที่ GBR6304847
- สามารถใช้ร่วมกับยาพ่นจมูกหรือยาภูมิแพ้ได้ เพื่อป้องกันไม่ให้อาการจมูกอักเสบภูมิแพ้รุนแรงหรือมีอาการแพ้อากาศเกิดขึ้น
#ติดเชื้อทางเดินหายใจ #หวัด #ไข้หวัดใหญ่
#Nasaleze #นาซัลลีซ #สเปรย์พ่นจมูกชนิดผง #NasalezeAllergyBlocker #AllergyBlocker
#สเปรย์พ่นจมูกดักจับสารก่อภูมิแพ้ #MadeInEngland #เพิ่มการ์ด #ExtraProtection #นวัตกรรมใหม่ #innovation #ภูมิแพ้ #สารก่อภูมิแพ้
#แพ้ไรฝุ่น #แพ้ขนสัตว์ #แพ้เกสรดอกไม้ #แพ้อากาศ #ตัวช่วยห่างไกลภูมิแพ้#ป้องกันภูมิแพ้ตั้งแต่จมูก #บอกลาภูมิแพ้ #ลาออกจากการเป็นภูมิแพ้ #เกราะป้องกันภูมิแพ้
#หวัดป้องกันได้ #เชื้อโรคลอยในอากาศ#นาซัลลีซ #สเปรย์พ่นจมูก #ไม่ใช่ยา #ดักจับเชื้อโรค
#นาซัลลีซทราเวล #ExtraProtection #Germblocker #Invisible_mask #ป้องกันดีกว่ารักษา
Line : @nasaleze (มี@ ด้านหน้าด้วยนะคะ) หรือ คลิก https://lin.ee/Iy3ufdh