ปัญหาจุดซ่อนเร้นของสาว ๆ ไม่ว่าจะอาการคัน ตกขาว แสบระคายเคือง มีกลิ่นเหม็น ถือว่าเป็นสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ยิ่งนัก อาการคันในจุดซ่อนเร้นนั้นมีทั้งแบบติดเชื้อและไม่ติดเชื้อ
- แบบติดเชื้อที่ทำให้เกิดอาการภายใน ได้แก่เชื้อ แบคทีเรีย เชื้อรา โปรโตซัว
- ตกขาวที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียจะมีสีขาวปนเทา มีอาการแสบร้อนบริเวณช่องคลอด
- ตกขาวที่เกิดจากเชื้อรา ตกขาวจะมีลักษณะเป็นก้อนคล้ายโยเกิร์ต มีอาการคันมากกว่า เชื้อแบคทีเรีย
- ตกขาวที่เกิดจากเชื้อโปรโตซัว ตกขาวที่เกิดจากเชื้อตัวนี้จะมีสีค่อนข้างเขียว บริเวณปากมดลูกมีจุดแดงคล้ายสตรอว์เบอร์รี
- อาการคันภายนอกที่ไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อ
เป็นอาการคันที่เกิดจากการแพ้ของผิวหนังหรืออาจจะเกิดจากพฤติกรรมเสี่ยง ที่ทำให้เกิดปัญหาในจุดซ่อนเร้น โดยมีสาเหตุคือ
-
- เกิดจากสารเคมีที่ใช้ในการซักล้าง บริเวณจุดซ่อนเร้นเป็นบริเวณผิวหนังที่มีความบอบบางเป็นอย่างมาก จึงอาจทำให้เกิดการระคายเคืองจากสารเคมีที่ใช้
- การใส่ชุดชั้นในที่รัดแน่นเกินไปจนเกิดการเสียดสี สาว ๆ ที่ชอบใส่ชุดชั้นในรัดแน่น หรือกางเกงที่รัดแน่น ต้องเปลี่ยนพฤติกรรมโดยด่วน
- ติดเชื้อปรสิตบางชนิดโดยเฉพาะตัวโลน อาจต้องระวังเรื่องความสะอาดให้มากขึ้น
- การติดเชื้อราภายในร่มผ้า บริเวณใกล้เคียงกับอวัยวะเพศ เพราะเมืองไทยเป็นเมืองร้อนอาจส่งผลให้เกิดเชื้อราในร่มผ้าได้ การที่ใส่เสื้อผ้ารัดแน่นเกินไปอาจส่งผลให้อวัยวะเพศอึดอัด ร้อน ไม่ระบายเหงื่อนั่นเอง
การดูแลเมื่อเกิดปัญหาในจุดซ่อนเร้น
- ทำความสะอาดอวัยวะเพศด้วยน้ำเปล่าธรรมดา
- ไม่ล้างจุดซ่อนเร้นด้วยน้ำยาทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น เพราะในช่องคลอดจะมีทั้งแบคทีเรียตัวดีและแบคทีเรียตัวร้าย การที่ใช้น้ำยาทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นจะไปทำลายเชื้อแบคทีเรียตัวดีให้ตายไปด้วย ทำให้เกิดการเสียสมดุล
- ซักทำความสะอาดชุดชั้นในที่สวมใส่ด้วยน้ำยาที่มีความอ่อนโยนเพื่อป้องกันการแพ้ของผิวหนังบริเวณจุดซ่อนเร้น
- สวมใส่ชุดชั้นในและเสื้อผ้าที่ระบายอากาศ ไม่คับ รัดแน่น จนเกินไป
เมื่อเกิดอาการคันจากภาวะเชื้อแบคทีเรีย ใช้ มัลติ-จิน แอคติเจล (Multi-Gyn ActiGel) ผลิตภัณฑ์ช่วยบรรเทาการคันระคายเคือง ลดและกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ ตกขาวผิดปกติ และป้องกันอาการผิดปกติของจุดซ่อนเร้น ต่อต้านการเกิดเชื้อราและช่วยปรับสมดุลเซลล์เนื้อเยื่อภายในช่องคลอดให้กลับมาสู่ภาวะปกติได้
สำหรับสาว ๆ คนไหนที่มีปัญหาจุดซ่อนเร้น ไม่ว่าจะเป็นอาการคัน มีภาวะตกขาว หรือมีกลิ่น หากรู้สึกเป็นกังวลกับอาการดังกล่าว สามารถไปพบสูตินารีแพทย์เพื่อทำการตรวจหาเชื้อแล้วรับการรักษาที่เหมาะสมตามอาการจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด สาว ๆ ที่มีอายุ 21 ปีขึ้นไปควรมาตรวจหามะเร็งปากมดลูกในทุก ๆ 2-3 ปี