Nasaleze Allergy Blocker

ป้องกัน! “จมูกอักเสบภูมิแพ้” หยุดจาม แน่นจมูก น้ำมูกไหล

เบื่อไหม? ที่มีน้ำมูกไหลและจามบ่อยๆ เพราะแพ้อากาศ ยิ่งในช่วงหน้าหนาวอากาศเปลี่ยน หรือคุณภาพอากาศไม่ดี มีฝุ่น คนเป็นภูมิแพ้จมูกอย่างเรายิ่งใช้ชีวิตลำบากเพราะต้องคอยเช็ดน้ำมูก กินยาแก้แพ้ หรือพ่นยาบ่อยๆ  จึงชวนคุณมาป้องกันต้นเหตุอาการแพ้และแก้ที่สาเหตุ ให้เรามีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่านี้กันเถอะ

จมูกอักเสบภูมิแพ้ ภัยเงียบต่อสุขภาพและการใช้ชีวิต

โรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ หรือที่มักเรียกกันว่าแพ้อากาศ เป็นโรคที่พบได้บ่อยในประเทศไทย และประเทศอื่นๆทั่วโลก โรคนี้พบได้ประมาณ 10-25% ของประชากรทั่วไป  และโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้นี้ยังมีแนวโน้มที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งจะพบผู้ป่วยเด็กและวัยรุ่น มากกว่า 80% ของผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ทั้งหมอ พบในเด็กผู้ชายมากกว่าเด็กผู้หญิง แต่ในผู้ใหญ่จะพบในผู้หญิงได้มากกว่าผู้ชาย โรคจมูกอักเสบภูมิแพ้นี้มักจะเริ่มแสดงอาการในวัยเรียนหรือวัยรุ่น และจะเป็นกันมากในคนที่อยู่ในเมืองใหญ่ที่มีมลพิษทางอากาศมาก จากข้อมูลที่เคยมีการศึกษาพบว่าการเปลี่ยนแปลงของอากาศ รวมถึงมลพิษทางอากาศมีผลต่อปริมาณของสารก่อภูมิแพ้ และสารระคายเคืองในอากาศที่เพิ่มขึ้น ทำให้มีคนที่ต้องสัมผัสกับสารดังกล่าวในอากาศมากขึ้น จึงทำให้มีสถิติของผู้ป่วยเพิ่มขึ้นตามไปด้วย    

โรคจมูกอักเสบภูมิแพ้  เป็นโรคที่มีความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายชนิดที่มีอาการแสดงทางจมูก  โดยเกิดได้ง่ายหลังจากได้รับสารก่อภูมิแพ้เข้าไปทำปฏิกิริยากับเยื่อบุจมูก จนเกิดการอักเสบของเยื่อบุจมูก ทำให้เกิดอาการคันจมูก จาม  น้ำมูกไหล  และคัดจมูก อาจมีอาการคันเพดานปากหรือคอร่วมได้ด้วย  คนที่ป่วยนั้นจะมีอาการแพ้กำเริบได้ตั้งแต่น้อยไปจนถึงเป็นมาก  ซึ่งคนที่ป่วยเป็นโรคนี้แม้จะมีอาการไม่รุนแรง  แต่ส่งผลเสียต่อคุณภาพชีวิตทั้งทางด้านร่างกาย จิตใจ และการเข้าสังคม บั่นทอนสุขภาพและการใช้ชีวิตประจำวันทุกอย่าง อาทิ ทำให้สุขภาพเสื่อมโทรมลงเพราะแพ้อากาศ มีความรำคาญหงุดหงิดตัวเองที่ป่วยเป็นโรคนี้อย่างมาก เนื่องจากมีน้ำมูกไหลหรือจามอยู่ตลอดเวลา เสียบุคลิก ทำงานไม่ได้เต็มที่เต็มคุณภาพเมื่อเทียบกับคนทั่วไปที่ไม่ป่วย นอกจากนั้นค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคนี้ก็มีมูลค่าสูง  ยิ่งหากเกิดในเด็ก ก็อาจจะส่งผลกระทบต่อการเรียน ทำให้เด็กหงุดหงิด ไม่สบายตัว น้ำมูกไหลเหมือนเป็นหวัดตลอดปี จนเพื่อนกลัวติดและไม่สบายไปด้วย รวมทั้งยังมีอาการนอนกรน หายใจไม่สะดวก นอนหลับไม่เต็มที่ ส่งผลต่อพัฒนาการที่ดีเด็ก นอกจากนี้ตัวเด็กเองก็ยังไม่รู้จักดูแลสุขอนามัยตัวเองเมื่อมีอาการไม่สบาย ทำให้อาจติดเชื้อหรือมีอาการป่วยรุนแรงได้มากยิ่งขึ้น

สุดท้ายคือคนที่เป็นโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้หากไม่ได้รับการรักษาโรคนี้อย่างถูกต้อง อาจทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนตามมาได้ ทั้ง ไซนัสอักเสบ ริดสีดวงจมูก หูชั้นกลางอักเสบ ภาวะมีน้ำขังในหูชั้นกลาง จมูกไม่ได้กลิ่น นอนกรน และภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ทำให้เป็นโรคหืดและมีอาการหอบหืดมากขึ้นได้

หมอตรวจแบบไหน รักษาได้อย่างไรบ้าง

ในการวินิจฉัยโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ส่วนใหญ่จะมีการตรวจพิเศษร่วมด้วย เช่น การทดสอบภูมิแพ้ทางผิวหนัง (Skin prick test) โดยการหยดน้ำยาสกัดสารก่อภูมิแพ้และน้ำยาเปรียบเทียบผลบวกและผลลบ บริเวณผิวหนังที่ท้องแขน หรือแผ่นหลัง แล้วสะกิดด้วยอุปกรณ์เฉพาะ ใช้เวลาอ่านผลการทดสอบการแพ้ประมาณ 15 นาที วิธีนี้จะให้คนที่ป่วยภูมิแพ้งดยาแก้แพ้ หรือยาต้านฮิสตามีนอย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนมาทดสอบ

อีกวิธีหนึ่งคือการตรวจสารก่อภูมิที่จำเพาะในเลือด (Specific lgE) คือการตรวจหา lgE ที่จำเพาะต่อสารก่อภูมิแพ้แต่ละชนิดในเลือดของคนป่วย โดยข้อดีของการตรวจชนิดนี้คือ ไม่ต้องงดยาแก้แพ้ หรือ ยาต้านฮิสตามีนก่อนมาตรวจเลือด ซึ่งผลที่ออกมาก็สามารถบอกได้ว่าแพ้สารก่อภูมิแพ้ชนิดใด  รวมถึงอาจใช้วิธีการตรวจเซลล์ในจมูก และวิธีการกระตุ้นโดยใส่สารกระตุ้นไปในจมูกได้

วิธีการรักษา มีดังนี้

1) หลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้ หรือกำจัดสิ่งที่แพ้ คือวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันอาการแพ้จากสาเหตุอันดับหนึ่ง โดยวิธีนี้คือการป้องกันจากสาเหตุที่ทำให้เกิดการแพ้ กำจัดหรือลดปริมาณของสารก่อภูมิแพ้ที่มีอยู่ในสิ่งแวดล้อมรอบตัวให้เหลือน้อยที่สุด หรือไม่มีเลย และไม่ให้สารก่อภูมิแพ้ต่างๆ นั้นเข้าสู่ร่างกายโดยเฉพาะจมูกได้

2) การใช้ยาบรรเทาอาการ เป็นยาประเภทต่างๆ นั่นคือ

 ใช้ยาต้านฮิสตามีน ซึ่งจะได้ผลดีก็ต่อเมื่อให้ยา ก่อนที่จะสัมผัสกับสารก่อภูมิแพ้

ใช้ยาหดหลอดเลือด มีทั้งในรูปของยากินและยาใช้เฉพาะที่ ที่ทำให้หลอดเลือดหดตัวและเนื้อเยื่อในจมูกยุบบวม ส่งผลทำให้มีอาการคัดจมูกน้อยลง

ใช้ยาสเตียรอยด์พ่นจมูก ถือเป็นการรักษามาตรฐานของโรคนี้ โดยเป็นยาที่มีประสิทธิภาพในการรักษาโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้มากที่สุด ดังนั้นจึงใช้ยานี้ในการรักษาและป้องกันอาการ  แต่การใช้ยาสเตียรอยด์เป็นประจำหรือใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน ก็สามารถส่งผลเสียต่อสุขภาพได้

3) การฉีดวัคซีนภูมิแพ้ เป็นการรักษาโดยฉีดสารก่อภูมิแพ้ ที่คิดว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการแพ้ เข้าไปในร่างกายทีละน้อย แล้วค่อยๆ เพิ่มจำนวนขึ้น เพื่อให้ร่างกายสร้างภูมิต้านทานต่อสิ่งที่แพ้ วิธีนี้จะใช้สำหรับผู้ป่วยที่มีอาการมาก ไม่สามารถควบคุมอาการได้ด้วยยา หรือไม่สามารถทนผลข้างเคียงของยาได้ หรือผู้ที่มีโรคภูมิแพ้หลายชนิดร่วมด้วย วิธีนี้จะใช้เวลาอย่างน้อย 1 ปีครึ่ง ถ้าได้ผลดี อาจต้องฉีดต่อเนื่องไปอีก 3-5 ปี

4) การผ่าตัด ใช้ในผู้ป่วยบางรายที่มีอาการคัดจมูกหรือน้ำมูกไหล ซึ่งให้การรักษาโดยการใช้ยาอย่างเต็มที่แล้วไม่ดีขึ้น หรือมีโรคบางชนิดร่วมด้วย เช่น ผนังกั้นช่องจมูกคด เยื่อบุจมูกบวมมากผิดปกติ ริดสีดวงจมูก ไซนัสอักเสบ ซึ่งอาการไม่ดีขึ้นหลังให้การรักษาด้วยยาไปแล้ว

สาเหตุของจมูกอักเสบภูมิแพ้ แบบไหนเราแก้ได้?

กรรมพันธุ์  หากคุณพ่อคุณแม่เป็นโรคภูมิแพ้ ลูกก็มีโอกาสเป็นโรคภูมิแพ้สูงถึง 50-70%   ซึ่งหากมีสาเหตุจากกรรมพันธุ์ อาจป้องกันได้ยากแต่สามารถดูแลสุขภาพร่างกายตัวเองให้แข็งแรงเพื่อไม่ให้มีอาการแพ้มากขึ้นได้

สารก่อภูมิแพ้ ที่มาจากสิ่งแวดล้อม สารระคายเคืองและมลภาวะทางอากาศทั้งในบ้านและนอกบ้าน เช่น ฝุ่น ไรฝุ่น แมลงสาบ รังแคหรือขนของแมวและสุนัข เชื้อราในอากาศ ควันบุหรี่ ละอองหญ้า เกสรดอกไม้ ฝุ่นละอองทั่วไป ควันจากรถยนต์ ควันไฟจากการหุงต้มอาหาร ควันจากการเผา ก๊าซพิษ และอื่นๆ เช่น  การเปลี่ยนแปลงของอากาศ  ที่ก่อให้เกิดการระคายเคืองและอาการแพ้ทางจมูก หรือแพ้อากาศได้  ซึ่งสาเหตุจากสารก่อภูมิแพ้ที่เกิดจากสิ่งแวดล้อมรอบตัวเหล่านี้ทั้งหมด เป็นสิ่งที่สามารถป้องกันได้ ฉะนั้นเราจึงควรมาให้ความสำคัญกับการป้องกันไม่ให้จมูกอักเสบจากภูมิแพ้มีอาการกำเริบหรือรุนแรงมากขึ้น ด้วย 5 วิธีการป้องกันต่างๆ ดังต่อไปนี้

5 วิธีป้องกันจมูกอักเสบภูมิแพ้ที่สาเหตุ   

อาการจมูกอักเสบภูมิแพ้ที่เกิดขึ้นนั้น สาเหตุส่วนใหญ่มาจากการได้รับสิ่งกระตุ้นจากสารก่อภูมิแพ้ทำให้มีอาการคัดแน่นจมูก จาม และน้ำมูกไหล เป็นเรื้อรังไม่หายสักดี  เราจึงมาแนะนำวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันและกำจัดสารก่อภูมิแพ้ไม่ให้เข้าสู่ร่างกายเราได้ นั่นคือ  

1) ใช้สเปรย์พ่นจมูกชนิดผง นาซัลลีซ อัลเลอจี บลอคเกอร์” ( Nasaleze Allergy Blocker) สร้างการ์ดที่จมูกหยุดสารก่อภูมิแพ้ไว้แค่ภายนอก นวัตกรรมระดับโลก ที่สามารถดักจับและป้องกันสารก่อภูมิแพ้ไม่ให้เข้าสู่เยื่อบุโพรงจมูก และเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ ป้องกันอาการภูมิแพ้อากาศกำเริบได้ ด้วยความพิเศษต่างๆ ของสเปรย์พ่นจมูกชนิดผง ดังนี้

  •  ดักจับสารก่อภูมิแพ้ด้วยสารสกัดธรรมชาติ เป็นสเปรย์พ่นจมูกชนิดผงที่ผลิตจากสารสกัดธรรมชาติ ผงเซลลูโลส (HPMC) 98.5% และ ผงเปเปอร์มินต์ 1.5% โดยจะเปลี่ยนเป็นเจลในโพรงจมููก ดักจับและป้องกันไม่ให้สารก่อภููมิแพ้ในอากาศเข้าสู่เยื่่อบุุโพรงจมููก จนเกิดอาการภูมิแพ้หรือแพ้อากาศได้
  •  ป้องกันอาการแพ้กำเริบ ลดการแตกตัวของแกรนูลในแมสเซลล์ ลดการหลั่งอิมมูโนโกลบูลินอีและฮีสตามีน จึงสามารถป้องกันไม่ให้เกิดอาการภูมิแพ้หรือแพ้อากาศ
  • มีการศึกษาวิจัยช่วยลดอาการได้จริง  จากงานวิจัยมากกว่า 35 การศึกษา ที่มีผลยืนยันประสิทธิภาพว่าสามารถลดอาการจาม คัดจมูก น้ำมูกไหล จากการแพ้ได้
  • ใช้ร่วมกับยารักษาภูมิแพ้ได้ ทั้งยาพ่นจมูก หรือยาอื่นๆ ที่รักษาโรคภูมิแพ้หรือแพ้อากาศ เพื่อเสริมประสิทธิภาพการรักษา และป้องกันไม่ให้อาการจมูกอักเสบภูมิแพ้รุนแรงมากขึ้นได้ โดยใช้ภายหลังจากการใช้ยาพ่นจมููกอื่่น เพื่่อไม่ให้เจลที่่ดักจับในโพรงจมููกถููกทำลาย
  • ออกฤทธิ์เร็วใน 2 นาที พ่นเพียง 1 ครั้ง ป้องกันสารก่อภูมิแพ้ได้นาน 6 ชั่วโมง  พ่นวันละ 2-3 ครั้ง หรือทุก 6-8 ชั่วโมง ป้องกันสารก่อภูมิแพ้ไม่ให้เข้าจมูกได้ตลอดวัน
  • ปลอดภัยไม่ใช่ยา กลุ่มบอบบางใช้ได้  ใช้เพื่อป้องกันอาการแพ้ก่อนเริ่มมีอาการ จึงไม่เหมือนยา และปลอดภัย ไม่ทำให้ง่วง ไม่มีผลข้างเคียง ใช้ได้ทั้งในเด็กอายุ 18 เดือนขึ้นไป คุณแม่ตั้งครรภ์และแม่ให้นมบุตร
  • ได้รับการยอมรับ เป็นตัวเดียวที่ทางสมาคมโรคภูมิแพ้แห่งสหรัฐอเมริกา (American Academy of Allergy Asthma & Immunology) ได้ระบุว่าเป็นตัวป้องกันสารก่อภูมิแพ้ (Allergen blocker) ได้
  • มาตรฐานสากล มีอย. ผลิตในประเทศอังกฤษ ใช้แล้วกว่า 50 ประเทศทั่วโลก  

2) หมั่นทำความสะอาด กำจัดสารก่อภูมิแพ้ ตัวอย่างเช่น กำจัดสารก่อภูมิแพ้ในห้องนอน ด้วยการหมั่นทำความสะอาด ดูดฝุ่น  กำจัดไรฝุ่น ซักผ้าปูที่นอนด้วยน้ำร้อนและตากแดดบ่อยๆ กำจัดสิ่งของที่เก็บฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้ ทั้ง ตุ๊กตา หนังสือ พรม และอื่นๆ เพราะในห้องนอนเป็นห้องที่เราต้องใช้เวลาอยู่บ่อยและนานมากถึงวันละ 6-8 ชั่วโมง รวมถึงไม่ลืมที่จะกำจัดและป้องกันสารก่อภูมิแพ้รอบตัวต่างๆ ในทุกๆ ห้องในบ้าน และอยู่ให้ห่างสิ่งที่เราอาจแพ้เมื่ออยู่นอกบ้านด้วย

3) กินอาหารที่มีคุณค่า หาเวลาพักผ่อนให้เพียงพอ  เป็นการสร้างเสริมสุขภาพให้แข็งแรงจากภายในด้วยการกินอาหารที่มีคุณค่าให้ครบ 5 หมู่และหลากหลาย เน้นผักผลไม้ วิตามินและสารอาหารจำเป็น ดื่มน้ำให้มากและนอนหลับให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่อสิ่งต่างๆ มีสุขภาพที่แข็งแรงและไม่ป่วยง่าย

4) หลีกเลี่ยงสารระคายเคือง โดยงดการใช้สารเคมีรุนแรงในบ้าน ทั้งน้ำยาทำความสะอาด หรือน้ำยาซักล้างต่างๆ  ควรเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่สกัดจากธรรมชาติหรือมีความอ่อนโยน รวมทั้งงดสูบบุหรี่ หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่อากาศไม่ดี มีฝุ่นควัน มลพิษ และอยู่ให้ห่างคนสูบบุหรี่

5) หมั่นออกกำลังกาย ดูแลสุขภาพ ควรออกกำลังกาย แบบแอโรบิก อย่างสม่ำเสมอ (การออกกำลังกายแบบแอโรบิก คือการออกกำลังกายที่ทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น   หายใจเร็วขึ้นต่อเนื่องกันอย่างน้อยวันละ  30  นาที  อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน เช่น วิ่ง เดินเร็ว ขึ้นลงบันได ว่ายน้ำ ขี่จักรยานฝืด (แบบปรับน้ำหนักได้เช่น  ใน FITNESS) เตะฟุตบอล เล่นแบดมินตัน บาสเกตบอลหรืออื่นๆ ) เพราะการออกกำลังกายจะทำให้ความไวของเยื่อบุจมูกและหลอดลมลดลง ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้ยาหรือใช้ยาลดน้อยลง และทำให้มีภูมิต้านทานต่อหวัด  ซึ่งเป็นปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้อาการภูมิแพ้แย่ลง คือจะเป็นหวัดได้ยากหรือเมื่อเป็นแล้วหายได้ง่ายขึ้น

ลดใช้สเตียรอยด์ หยุดภูมิแพ้ แก้ด้วยสเปรย์พ่นจมูก

หากลูกเป็นโรคภูมิแพ้จมูก มีอาการจาม น้ำมูกไหลเป็นประจำไม่หายสักที จึงจำเป็นต้องมีการใช้ยาสเตียรอยด์  แต่การใช้ยาสเตียรอยด์ในเด็กต้องมีความระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากอาจมีผลเสียต่อร่างกาย ฉะนั้นจะดีกว่าไหม หากเราไม่เอายาสเตียรอยด์เข้าไปในร่างกายลูก แล้วใช้วิธีสร้างเกราะป้องกันสารก่อภูมิแพ้ให้ลูกอย่างปลอดภัยด้วยสเปรย์พ่นจมูกชนิดผง ที่สกัดจากธรรมชาติที่ไม่มีผลเสียต่อร่างกาย แถมยังช่วยไม่ให้อาการภูมิแพ้จมูกของลูกกำเริบได้ด้วย

nasaleze2

นาซัลลีซ อัลเลอจี บลอคเกอร์ ใช้สำหรับป้องกันการเกิดอาการภูมิแพ้หรือแพ้อากาศ ดังนั้นควรเริ่มใช้ นาซัลลีซ อัลเลอจี บลอคเกอร์ก่อนที่จะสัมผัสสารก่อภูมิแพ้เพื่อป้องกันไม่ให้สารก่อภูมิแพ้ในอากาศเข้าสู่เยื่อบุโพรงจมูก ไปกระตุ้นให้เกิดอาการแพ้ต่างๆ นาซัลลีซ อัลเลอจี บลอคเกอร์ได้รับการพิสูจน์จากงานวิจัยทางคลินิก พบว่ามีประสิทธิภาพดีในกลุ่มผู้ป่วยโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ชนิดมีความรุนแรงน้อยถึงปานกลาง

นาซัลลีซ อัลเลอจี บลอคเกอร์ใช้เพื่อป้องกันอาการแพ้ก่อนเริ่มมีอาการ จึงไม่เหมือนยาที่ช่วยบรรเทาอาการ สามารถใช้ในการรักษาร่วมกับยา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาโรคภูมิแพ้หรือการแพ้อากาศ

ในกรณีที่ต้องใช้ยาพ่นทางจมูกอื่นร่วมด้วย ให้ใช้นาซัลลีซ อัลเลอจี บลอคเกอร์ภายหลังจากการใช้ยาพ่นจมูกอื่น เพื่อไม่ไห้เจลที่ดักจับในโพรงจมูกถูกทำลาย

เพื่อป้องกันโรคภูมิแพ้หรือการแพ้อากาศ ให้บีบพ่นนาซัลลีซ อัลเลอจี บลอคเกอร์วันละ 2-3 ครั้ง เพื่อให้ประสิทธิภาพการป้องกันสารก่อภูมิแพ้ในอากาศเข้าสู่เยื่อบุโพรงจมูกคงอยู่ตลอด

จากการศึกษาวิจัยพบว่า นาซัลลีซ อัลเลอจี บลอคเกอร์ สามารถป้องกันไม่ให้สารก่อภูมิแพ้ในอากาศเข้าสู่เยื่อบุโพรงจมูกได้นานถึง 6 ชั่วโมง ต่อการบีบพ่น 1 ครั้ง* (Diethart/Emberlin Invitro study)

นาซัลลีซ อัลเลอจี บลอคเกอร์ เป็นตัวเดียวที่ทางสมาคมโรคภูมิแพ้แห่งสหรัฐอเมริกา (American Academy of Allergy Asthma & Immunology) ได้ระบุว่าเป็นตัวป้องกันสารก่อภูมิแพ้ (Allergen blocker) ได้

 

pallergypchildren

สนใจสินค้า Click ที่นี่


#ติดเชื้อทางเดินหายใจ #หวัด #ไข้หวัดใหญ่

#Nasaleze #นาซัลลีซ #สเปรย์พ่นจมูกชนิดผง #NasalezeAllergyBlocker #AllergyBlocker

#สเปรย์พ่นจมูกดักจับสารก่อภูมิแพ้ #MadeInEngland #เพิ่มการ์ด #ExtraProtection #นวัตกรรมใหม่ #innovation #ภูมิแพ้ #สารก่อภูมิแพ้

#แพ้ไรฝุ่น #แพ้ขนสัตว์ #แพ้เกสรดอกไม้ #แพ้อากาศ #ตัวช่วยห่างไกลภูมิแพ้#ป้องกันภูมิแพ้ตั้งแต่จมูก #บอกลาภูมิแพ้ #ลาออกจากการเป็นภูมิแพ้ #เกราะป้องกันภูมิแพ้

#หวัดป้องกันได้ #เชื้อโรคลอยในอากาศ#นาซัลลีซ #สเปรย์พ่นจมูก #ไม่ใช่ยา #ดักจับเชื้อโรค

#นาซัลลีซทราเวล #ExtraProtection #Germblocker #Invisible_mask #ป้องกันดีกว่ารักษา

 

ปรึกษาหรือสอบถามรายละเอียดสินค้า

Line : @nasaleze (มี@ ด้านหน้าด้วยนะคะ) หรือ คลิก https://lin.ee/Iy3ufdh

☎โทร : 02-287-4956

 

 

ตะกร้า
เริ่มพิมพ์เพื่อดูสินค้าที่คุณกำลังมองหา