รู้ไหมว่าออฟฟิศที่นั่งทำงานอยู่ทุกวัน ก็เป็นตัวการสำคัญทำให้เราแพ้! เพราะสารพัดไรฝุ่นที่สะสมตามซอกหลืบ ในเอกสาร หนังสือ แมลงสาบ หนู เชื้อรา แถมด้วยสารเคมีอันตรายจากเครื่องถ่ายเอกสารและอื่นๆ ที่ก่อภูมิแพ้ให้เราได้โดยไม่รู้ตัว รู้อย่างนี้จะปล่อยให้ตัวเองหายใจรับพวกนี้เข้าไปในร่างกายจริงหรือ? มาหาวิธีการป้องกันร่างกายให้ชนะภูมิแพ้ได้ดีกว่า

สารก่อภูมิแพ้ในที่ทำงาน มีมากเกินกว่าที่คิด  

               เชื่อว่าหลายคนไม่เคยรู้ …ว่าการนั่งทำงานในออฟฟิศ สำนักงานก็เป็นสถานที่หนึ่งที่ทำให้เกิดอาการภูมิแพ้กำเริบหรือก่อให้เกิดอาการแพ้ได้ เพราะแม้ว่าจะมีการทำความสะอาดในทุกวัน แต่สิ่งของที่ตั้งอยู่ประจำ เอกสารและข้าวของเครื่องใช้ทุกอย่างเป็นแหล่งสะสมสารก่อภูมิแพ้ตัวร้าย ที่สามารถกระตุ้นและบั่นทอนให้ร่างกายมีอาการเจ็บป่วยจนเกิดโรคต่างๆ ได้ เพราะมีทั้งไรฝุ่นตามซอกหลืบ ในเอกสาร มีไรฝุ่นในหนังสือและเหาหนังสือ มีแมลงสาบและหนูที่จะมาหาอาหารในเศษขยะ มีแบคทีเรีย และมีเชื้อราในที่อับชื้น โดยเฉพาะแอร์ที่ไม่ได้ล้าง ที่ทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ โรคปอดอักเสบภูมิไวเกิน (hypersensitivity pneumonitis) และโรคติดเชื้อในทางเดินหาย แถมยังมีสารเคมีจากการเผาไหม้และสารเคมีในเครื่องสำนักงานที่ล้วนมีอันตรายต่อร่างกายที่ไม่ใช่แค่ทำให้เกิดอาการแพ้ แต่สะสมเป็นโรคร้ายได้ในอนาคตอีก

               ฉะนั้นเราดูกันว่าในที่ทำงานนั้นมีแหล่งของสารก่อภูมิแพ้และอันตรายอะไรบ้าง รวมทั้งมารู้จักวิธีการป้องกันตัวเองไม่ให้ต้องสูดดมสารพันสารก่อภูมิแพ้เข้าสู่ร่างกาย เพื่อไม่ให้เจ็บป่วยกับอาการภูมิแพ้กำเริบได้ในทุกวัน    

สารก่อภูมิแพ้และสารเคมีสำคัญ ที่ก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้กำเริบและโรคภัยต่างๆ จากข้อมูลของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้แก่

1. สารก่อภูมิแพ้ (Allergen) และชีวสาร (biological agents) ได้แก่ ไรฝุ่น ทั้งตัวไรฝุ่น ไข่ไรฝุ่น เศษซากไรฝุ่นที่ตายแล้วในเครื่องใช้และอุปกรณ์ต่างๆ แมลงสาบ เศษซากแมลงสาบที่ตายแล้ว เชื้อราจากผ้า เศษอาหารที่ไม่ได้ทิ้งหรือของใช้ที่อับชื้น แอร์ที่ไม่ได้ล้าง เชื้อโรคจากหนู เชื้อแบคทีเรีย ซึ่งทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ มีอาการภูมิแพ้กำเริบ เช่น คัดแน่นจมูก จาม มีน้ำมูกไหลเรื้อรัง  โรคปอดอักเสบภูมิไวเกิน (hypersensitivity pneumonitis) และโรคติดเชื้อในทางเดินหายใจต่างๆ 

นอกจากนี้ยังมีเหาหนังสือที่อยู่ในหนังสือ และหากที่ทำงานมีการนำแมว หรือสุนัขมาเล่น จนสัตว์เหล่านี้ก็ทำให้เกิดอาการภูมิแพ้กำเริบได้ง่าย  ตลอดจนมอดในเครื่องใช้ที่เป็นไม้และแมลงเม่าที่เล็ดลอดเข้ามาเล่นไฟในอาคารก็เป็นตัวการทำให้มีอาการแพ้และระคายเคืองได้   

2. ผลผลิตจากการเผาไหม้ (combustion products) ได้แก่ การเตรียมอาหาร การจุดธูปเทียนและการสูบบุหรี่ แม้จะสูบบุหรี่นอกอาคาร แต่ในควันบุหรี่ประกอบด้วยสารเคมีมากกว่า 3,800 ชนิดและทำให้เกิดอาการแพ้ได้ นอกจากนี้ในควันบุหรี่ยังมีสารเคมีที่พบมากและก่อผลกระทบต่อสุขภาพได้แก่ คาร์บอนมอนอกไซด์ (carbon monoxide) ไนโตรเจนออกไซด์ (nitrogen oxide) อนุภาคแขวนลอยและสารอินทรีย์ต่าง ๆ เช่น นิโคติน (nicotine) ฟอร์มัลดีฮัยด์ (formaldehyde) เบนซีน (benzene) ไนโตรซามีน (nitrosamine) และโพลีย์ศัยคลิค อะโรแมติคฮัยโดรคาร์บอน (polycyclic aromatic hydrocarbon) ทั้งหมดนี้ก่อให้เกิดอาการระคายเคืองต่าง ๆ เช่น แสบตา แสบจมูก หรือไอ  เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจและมะเร็งปอด  ส่วนในผู้หญิงก็สามารถทำให้แท้งและคลอดบุตรก่อนกำหนด  ในเด็กทำให้เกิดโรคระบบทางเดินหายใจเพิ่มขึ้น  เช่น ปอดอักเสบ หลอดลมอักเสบ โรคหืด การเจริญเติบโตของปอดช้าลงและโรคสารน้ำในช่องหูส่วนกลางได้อีกด้วย
3. สารเคมีภายในอาคาร ที่สำคัญคือ มีตั้งแต่

-ก๊าซโอโซนจากเครื่องถ่ายเอกสาร ทำให้เกิดการระคายเคืองในทางเดินหายใจ ก่อภูมิแพ้และความไวเกิน (hyperesponsiveness) ของเยื่อบุจมูกและหลอดลม

-สารฟอร์มัลดีฮัยด์ (formaldehyde) จากไม้อัดและผลิตภัณฑ์ไม้อัด โฟม ฉนวนกันความร้อน ผลิตภัณฑ์กระดาษ ไฟเบอร์กลาส สิ่งตกแต่งภายใน  เช่น ผ้าม่าน พรม เสื่อน้ำมันและผ้าไหม ทำให้เกิดระคายเคืองตาและเนื้อเยื่อในทางเดินหายใจส่วนบนและผิวหนัง ภูมิแพ้และหอบหืด

– ก๊าซเรดอน  เป็นก๊าซกัมมันตรังสีและเป็นก๊าซเฉื่อย ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น เกิดจากการสลายตัวของเรเดียมซึ่งเกิดจากการสลายตัวของธาตุยูเรเนียมเนื่องจากเรเดียมเป็นธาตุที่มีอยู่ในดินและหินตามธรรมชาติ  เรดอนจึงอาจมาจากดินและหินที่เป็นส่วนประกอบของอาคารซึ่งมีปริมาณเรดอนแตกต่างกัน  ขึ้นกับแหล่งและชนิดวัตถุดิบที่ผลิต  หรือการซึมผ่านของเรดอนจากพื้นดินใต้อาคารและรอบอาคาร  ผ่านรูพรุน รอยต่อ รอยแตกของพื้นและผนัง จุดเชื่อมต่อของพื้นและช่องผ่านของท่อต่าง ๆ  หรือกรณีหากอาคารอยู่ใกล้แหล่งแร่  เช่น เหมืองดีบุก หรือเหมืองถ่านหิน อาจมีเรดอนสลายตัวจนเกิดสารกัมมันตรังสีที่สำคัญ ซึ่งสามารถเกาะจับกับเยื่อยุทางเดินหายใจ ทำอันตรายต่อเนื้อปอด เมื่อได้รับเป็นเวลานานอาจทำให้เป็นมะเร็งปอดได้

ติดสเปรย์พ่นจมูกเข้าออฟฟิศ พิชิตภูมิแพ้

               เมื่อเห็นสารก่อภูมิแพ้และอันตรายจากสารเคมีต่างๆ กันขนาดนี้ เราคงจะต้องหันมาให้ความสำคัญกับการป้องกันตัวเองก่อนเข้าที่ทำงาน เพราะเราจะต้องเข้าไปอยู่ในบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมเหล่านี้ทุกวัน ดังนั้นจึงชวนทุกคนมาสร้างเกราะป้องกันภัยให้ร่างกาย ด้วยการป้องกันจมูกไม่ให้สูดสารก่อภูมิแพ้ต่างๆ เพื่อป้องกันโรคภูมิแพ้ และหยุดไม่ให้มีอาการภูมิแพ้ไม่กำเริบเรื้อรังจนทำคุณภาพชีวิตแย่ ด้วยสเปรย์พ่นจมูกชนิดผง นาซัลลีซ อัลเลอจี บลอคเกอร์ ( Nasaleze Allergy Blocker) สำหรับป้องกันการเกิดอาการภูมิแพ้หรือแพ้อากาศ ไม่ให้สารก่อภูมิแพ้ในอากาศเข้าจมูกได้จริง ด้วยคุณสมบัติพิเศษ นั่นคือ

– ผลิตจากสารสกัดธรรมชาติ 100% มีส่วนประกอบของผงเซลลูโลส (HPMC) 98.5% ผงเปเปอร์มินต์ 1.5% มีประสิทธิภาพในการดักจับและป้องกันสารก่อภูมิแพ้ในอากาศไม่ให้เข้าสู่เยื่อบุจมูก จนเกิดอาการแพ้กำเริบได้

– สร้างเกราะป้องกันในจมูกโดยเปลี่ยนผงสเปรย์เป็นเจลใสในจมูก เพื่อดักจับและป้องกันไม่ให้สารก่อภูมิแพ้ในอากาศเข้าสู่เยื่อบุจมูกได้  

– มีกลไกช่วยลดการแตกตัวของแกรนูลในแมสเซลล์ ลดการหลั่งฮีสตามีน ทำให้สามารถป้องกันการเกิดอาการภูมิแพ้หรือแพ้อากาศได้

– ได้รับการแนะนำจากบุคลากรทางการแพทย์ และเป็นส่วนหนึ่งในแนวทางการรักษาโรคภูมิแพ้มีผลการศึกษายืนยันประสิทธิภาพในการลดอาการจาม คัดจมูก น้ำมูกไหล 

– ผ่านการทดสอบทางคลินิกมากกว่า 35 การศึกษา ในผู้ป่วยมากกว่า 1,000 คน ได้รับรางวัลต่างๆ มากมายและได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิชาการทางการแพทย์ชั้นนำหลายฉบับ

– ผลิตในประเทศอังกฤษ สมาคมโรคภูมิแพ้แห่งสหรัฐอเมริกา (American Academy of Allergy Asthma & Immunology) ได้ระบุว่าเป็นตัวป้องกันสารก่อภูมิแพ้ (Allergen blocker) ได้

– ออกฤทธิ์เร็วใน 2 นาที พ่นเพียง 1 ครั้ง สามารถป้องกันสารก่อภูมิแพ้ได้ถึง 6 ชั่วโมง  พ่นวันละ 2-3 ครั้ง หรือทุก 6-8 ชั่วโมง จะช่วยป้องกันสารก่อภูมิแพ้ในอากาศเข้าสู่เยื่อบุจมูกได้ตลอดทั้งวัน

– ปลอดภัยสูง ไม่ใช่ยา ใช้ได้ในเด็กอายุตั้งแต่ 18 เดือนขึ้นไป คุณแม่ตั้งครรภ์และคุณแม่ให้นมบุตร ไม่มีผลข้างเคียง ไม่มีฤทธิ์ทำให้ง่วงนอน

– มีเอกสารรับรอง ได้รับใบอนุญาตโฆษณาเครื่องมือแพทย์จาก อย. เลขที่ ฆพ.673/2564 

– มีใบอนุญาตนำเข้าเครื่องมือแพทย์ เลขที่ GBR6304847

– สามารถใช้ร่วมกับยาเพื่อป้องกันไม่ให้อาการจมูกอักเสบภูมิแพ้รุนแรง หรือมีอาการแพ้อากาศเกิดขึ้นได้