ปวดหลัง

ปวดหลัง สัญญาณอันตรายที่ไม่ควรมองข้าม

ปวดหลัง สัญญาณอันตรายที่ไม่ควรมองข้าม !!

“หลัง” เป็นส่วนสำคัญของร่างกายที่ทำหน้าที่รับน้ำหนักตัวส่วนบนตั้งแต่ศีรษะลำตัวแล้วผ่านลงไปยังช่วงล่าง มีข้อต่อเพื่อทำให้เกิดการเคลื่อนไหวและยังมีหน้าที่ในการปกป้องเส้นประสาทที่อยู่ภายใน กระดูกสันหลังประกอบไปด้วยกระดูก 30 ชิ้น แต่ที่เป็นส่วนสำคัญของอาการ ปวดหลัง ที่พบบ่อย คือ กระดูกสันหลังส่วนล่าง 5 ชิ้น ซึ่งต่อกับกระดูกกระเบนเหน็บ กระดูกสันหลังส่วนล่างนี้เชื่อมกันด้วยข้อต่อ และมีช่องระหว่างข้อให้ปลายประสาทผ่านออกมาเลี้ยงกล้ามเนื้อของเรา    

          กระดูกสันหลังและกล้ามเนื้อโดยรอบมีหน้าที่รองรับน้ำหนักของร่างกายส่วนบนเป็นโครงสร้างของร่างกายที่สำคัญในการใช้ชีวิตประจำวันเกือบทุกกิจกรรม ไม่ว่าจะเป็นการยืน เดิน นั่ง หรือแม้แต่การนอนก็ตาม เมื่อไหร่ที่เกิดความผิดปกติก็จะนำมาซึ่ง อาการเจ็บ ปวดหลัง ปวดหลังร้าวลงขาอ่อนแรงชาเวลาเดินยืน ปวดคอร้าวลงสะบักหรือแขน ก็จะส่งผลต่อการดำเนินชีวิตและการทำงาน

5 สัญญาณอันตรายจากการ ปวดหลัง

  1. มีอาการ ปวดหลัง ติดต่อกันนาน 2 สัปดาห์
  2. มีอาการปวดร้าวจากหลังลงไปที่ขา หรือเท้า
  3. มีอาการชา หรืออ่อนแรงของขา
  4. มีอาการ ปวดหลัง จากการได้รับอุบัติเหตุ
  5. มีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น น้ำหนักลด เบื่ออาหาร

 

โรคหรืออาการ  ปวดหลัง ที่พบได้บ่อย

  • โรคหมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาท
  • โรคกระดูกทับเส้นประสาท
  • โรคกระดูกสันหลังคด กระดูกสันหลังผิดรูป
  • โรคกระดูกสันหลังทรุดตัวจากกระดูกพรุน
  • กระดูกสันหลังหักจากอุบัติเหตุ
  • กระดูกสันหลังเคลื่อน
  • อาการปวดหลังร้าวลงขา ปวดคอร้าวลงแขน
  • อาการปวดหลังช่วงเอว
  • อาการปวดคอร้าวไปไหล่หรือสะบัก

 

แนวทางการรักษา มีหลายวิธี ได้แก่

การรักษาแบบไม่ผ่าตัด

เป็นการรักษาแบบประคับประคองตามอาการ เพื่อลดอาการปวดเป็นหลัก (Pain Management) โดยการรักษาด้วยวิธีเหล่านี้ให้ได้ผลดี มีความเสี่ยงน้อย แต่จะเป็นการรักษาอาการปวดที่ไม่รุนแรงและเป็นวิธีแบบประคับประคองในระยะเวลาสั้นๆเท่านั้น

  • การทำกายภาพบำบัด เป็นหนึ่งเครื่องมือที่สำคัญในการรักษาโรคปวดหลังแบบไม่ผ่าตัด เช่น การประคบร้อน การทำ Ultrasound, Laser, Shockwave Therapy, การบริหารกล้ามเนื้อที่เหมาะสม เพื่อป้องกันการเกิดอาการปวดหลังในอนาคต
  • การรักษาด้วยยา ได้แก่ ยาลดอาการปวดและอักเสบของกล้ามเนื้อ (NSAIDS) ยาคลายกล้ามเนื้อ ยาสำหรับลดอาการปวดจากปลายประสาท
  • การใช้อุปกรณ์ช่วยพยุงหลัง (Back Support or Brace) การใส่อุปกรณ์ช่วยพยุงหลังสำหรับอาการปวดหลัง มักมีประโยขน์ในระยะสั้น สามารถช่วยให้ผู้ป่วยรู้สึกสบายมากขึ้น อาการปวดลดลง
  • การทำหัตถการบริเวณกระดูกสันหลัง เช่น การฝังเข็ม การฉีดยาบล็อกกล้ามเนื้อ (Trigger Point) การฉีดยาบล็อกข้อต่อ Facet การฉีดยาเข้าโพรงเส้นประสาท (Epidural Steroid Injection) โดยประโยชน์ของการทำหัตถการ คือ ลดอาการปวด และช่วยยืนยันการวินิจฉัย

การรักษาแบบผ่าตัด

การรักษาอาการปวดหลังด้วยวิธีการผ่าตัด อาจพิจารณาผ่าตัดในผู้ป่วยที่อาการไม่ทุเลาจากการรักษาแบบไม่ผ่าตัดเป็นเวลาอย่างน้อย 6-12 สัปดาห์ หรือในผู้ป่วยที่มีการทำงานของเส้นประสาทที่เสียไป เช่น กล้ามเนื้อลีบ กล้ามเนื้ออ่อนแรง การทำงานของกล้ามเนื้อหูรูดควบคุมการขับถ่ายเสียไป เป็นต้น

 

 

มีวิธีอื่นที่จะช่วยบรรเทาอาการ ปวดหลัง ได้อีกหรือไม่

     Cooled RF เป็นทางเลือกใหม่ในการรักษาอาการปวดจากเส้นประสาทได้ตั้งแต่บริเวณ คอ ไหล่ หลัง ก้นกบ สะโพก และเข่า ลดความเสี่ยงจากการผ่าตัด ผลข้างเคียงน้อย และบรรเทาอาการปวดได้เป็นอย่างดี    

โดยสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดได้ยาวนานถึง 1-2 ปี

 

Cooled RF คืออะไร

        Cooled RF คือ เครื่องมือที่ช่วยในการระงับปวด โดยการส่งผ่านความร้อนในรูปแบบคลื่นวิทยุ (Radiofrequency, RF) ซึ่งเป็นคลื่นเสียงความถี่สูง ไปยังเส้นประสาทบริเวณที่เป็นสาเหตุของอาการปวด ทำให้เส้นประสาทนั้น ๆ ถูกรบกวน จึงไม่สามารถส่งสัญญาณความรู้สึกเจ็บปวดจากบริเวณนั้นไปยังสมองได้ ทำให้ผู้ได้รับการรักษารู้สึกปวดน้อยลงหรือไม่รู้สึกปวดเลย

 

Cooled RF มีหลักการทำงานอย่างไร

      จากหลักการทำงานที่มีการส่งผ่านคลื่นวิทยุหรือคลื่นเสียงความถี่สูงไปยังเส้นประสาทบริเวณที่ปวด แพทย์จะดำเนินการสอดเข็มขนาดเล็กไปยังตำแหน่งเส้นประสาทที่ต้องการรักษาและส่งผ่านความร้อนเข้าไป ทำให้รบกวนการทำงานของเส้นประสาทที่ควบคุมความรู้สึกปวดบริเวณนั้น โดยใช้เวลารักษาเพียง 30-40 นาที เท่านั้น

Cooled RF : คลื่น RF สามารถครอบคลุมพื้นที่ของกลุ่มเส้นประสาทได้เป็นวงกว้าง จึงรบกวนการส่งสัญญาณความเจ็บปวดไปยังสมองได้เพิ่มขึ้นและยาวนานขึ้น ทำให้คนไข้รู้สึกปวดลดลง รวมถึงหลีกเลี่ยงการให้ปลายเข็มเข้าใกล้เส้นประสาทมากเกินไป Cooled RF จึงมีความปลอดภัยรวมถึงให้ผลการรักษาที่มีประสิทธิภาพที่ดีและยาวนาน

 

Cooled RF ให้ผลการรักษาเป็นอย่างไร

         มีผลการศึกษาวิจัยรองรับประสิทธิภาพการบรรเทาปวดจากการรักษาด้วย Cooled RF ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการทางการแพทย์ในระดับนานาชาติมากมาย เช่น จากการศึกษาพบว่า “Cooled RF สามารถลดและบรรเทาอาการปวดจากเส้นประสาทได้มากกว่าร้อยละ 80 และบรรเทาอาการปวดได้นานถึง 1-2 ปี การรักษาด้วย Cooled RF จึงเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในต่างประเทศ ทั้งในประเทศสหรัฐอเมริกา ยุโรป และเอเชีย”

 

ประโยชน์สูงสุดที่จะได้รับจากการรักษาด้วย Cooled RF

  • รักษาอาการปวดได้นาน 1-2 ปี โดยไม่ต้องผ่าตัด
  • รักษาและกลับบ้านได้ในวันเดียว ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล
  • ลดโอกาสในการเกิดผลข้างเคียงจากการผ่าตัด
  • ฟื้นตัวได้เร็ว
  • คุณภาพชีวิตดีขึ้น กลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ

 

Cooled RF ปลอดภัยหรือไม่

      เนื่องจากการใช้ Cooled RF ไม่ใช่การผ่าตัด ดังนั้น จึงลดความเสี่ยงจากการผ่าตัด ความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อนหลังการผ่าตัด ความเสี่ยงจากการกำเริบของโรคประจำตัว ผู้ที่มีโรคประจำตัวเช่น โรคความดันโลหิตสูง เบาหวาน หอบหืด โรคไต สามารถรับการรักษาด้วยวิธีนี้ได้อย่างปลอดภัย นอกจากนี้ ยังลดการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อและการเกิดแผล ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล และสามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว

 

Cooled RF รักษากับแพทย์แผนกใด

        Cooled RF จัดได้ว่าเป็นนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยแพทย์ที่รักษาจำเป็นต้องมีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษเรื่องการลดปวดโดยตรง ได้แก่ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการระงับปวด (Pain Intervention Specialist) และแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกและข้อ (Orthopedic surgeon)  จะเป็นผู้ดูแลและดำเนินการรักษาหลัก

ค่าใช้จ่ายในการรักษา

          เบื้องต้นขึ้นอยู่กับตำแหน่งในการรักษาและระดับความปวดของผู้ป่วย โดยผู้ป่วยสามารถเบิกประกันสุขภาพได้ **(ขึ้นอยู่กับวงเงินที่ทำและบริษัทประกันนั้นๆ)** สามารถสอบถามค่าใช้จ่ายเบื้องต้นในการรักษากับทางโรงพยาบาลก่อนได้

 

แพทย์ผู้ทำการรักษา: นายแพทย์ ศรันย์ ไพรัชเวทย์

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกและข้อ ความชำนาญเฉพาะทางด้านศัลยศาสตร์กระดูกสันหลัง

แผนกกระดูกและข้อ โรงพยาบาลสมิติเวช ศรีราชา

เวลาทำการ : วันจันทร์ เวลา 17.00-19.00 น. ,ศุกร์ เวลา 15.00-17.00 น.

เบอร์โทรติดต่อ : 038-320300 ต่อ 4140, 4141

แผนกกระดูกและข้อ โรงพยาบาลสมิติเวช ชลบุรี

เวลาทำการ : วันอาทิตย์ เวลา 9.00-13.00 น.

เบอร์โทรติดต่อ : 033-038877

แผนกกระดูกและข้อ โรงพยาบาลพญาไท ศรีราชา

เวลาทำการ : วันพฤหัสบดี เวลา 17.00-20.00 น.

เบอร์โทรติดต่อ : 038-317333 ต่อ เบอร์ 4115 ตามเวลา 08.00-19.00 น.

 

แพทย์ผู้ทำการรักษา: นายแพทย์ นโรตน์ ตรีณรงค์

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกและข้อ ความชำนาญเฉพาะทางด้านศัลยศาสตร์กระดูกสันหลังและการผ่าตัดส่องกล้อง

แผนกกระดูกและข้อ โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต

ติดต่อสอบถามข้อมูล : คุณ เรวดี เปาะทองคำ

เบอร์โทรติดต่อ : 094-4663559, 076-254425 ต่อ 8335, 3744, 3745

เวลาทำการ : วันจันทร์-พฤหัส, อาทิตย์ เวลา 9.00-16.00 น.

 

สนใจรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อได้ที่

คุณ อริศรา
โทร : 065- 532-2649
Email : arisara.valorhealth@gmail.com

คุณ กุลทิตตา
โทร : 065- 879-3554
Email : kultitta@valorhealth.co.th

 

ตะกร้า
เริ่มพิมพ์เพื่อดูสินค้าที่คุณกำลังมองหา