รู้ไหมว่า? ในจำนวนคนป่วยเป็นโรคภูมิแพ้ทั้งหมด 100 คน จะพบเด็กและวัยรุ่นเป็นโรคภูมิแพ้

จมูกอักเสบกันมากถึงประมาณ 80 คนทีเดียว  ฉะนั้นจึงต้องรีบหาวิธีดูแลป้องกันไม่ให้เด็กๆ ป่วยภูมิแพ้เรื้อรังหรือมีอาการกำเริบกันอย่างเร่งด่วน เพราะหากปล่อยไปอาจเสี่ยงเป็นหอบหืดหรือโรคอื่นๆ ได้ในอนาคต  

จาม คัดแน่นจมูก น้ำมูกไหล..ใช่เลยภูมิแพ้จมูก

            อาการจาม คัดจมูก มีน้ำมูกไหล ไม่ใช่แค่โรคหวัด เพราะหากใครจามบ่อยๆ ถี่ๆ มีน้ำมูกไหลบ่อยๆ เป็นๆ หายๆ ถือว่าเป็นหนึ่งในอาการโรคภูมิแพ้ชนิดที่เรียกกันว่า โรคภูมิแพ้จมูก (Allergic Rhinitis) หรือว่า “แพ้อากาศ” ซึ่งจะทำให้เกิดปัญหากับระบบทางเดินหายใจในร่างกาย  และโรคนี้ยังเป็นโรคที่พบได้บ่อยมากในประเทศไทย ยิ่งในยุคที่มีสารก่อภูมิแพ้รอบตัวมากมาย ทั้งฝุ่น ควัน มลพิษ และสิ่งแวดล้อมที่ทำให้คุณภาพอากาศแย่ลง ก็แทบจะเรียกได้ว่าเกือบทุกบ้านจะต้องมีคนป่วยด้วยโรคนี้สักหนึ่งคนอยู่ด้วย

โดยเฉพาะในเด็กและวัยรุ่น พบว่าป่วยด้วยโรคภูมิแพ้จมูกนี้ มากกว่า 80% ของผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ ซึ่งจะมีอาการก่อนอายุ 20 ปี แต่โรคนี้ก็สามารถพบได้ในคนทุกวัย  ทำให้มีคล้ายเป็นหวัดเรื้อรัง จามและมีน้ำมูกไหลบ่อยๆ ไม่หายสักที สร้างความรำคาญให้กับคนที่เป็น และอาจเกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆ ได้อีกด้วย

เพราะอะไร? ลูกจึงแพ้ง่าย ตอบสนองไวต่อสารก่อภูมิแพ้ 

สาเหตุที่เด็กๆ เป็นโคภูมิแพ้จมูกกันมากเนื่องจากมีหลายปัจจัยทั้งภายในร่างกายและภายนอกที่กระตุ้นให้ร่างกายของลูกแพ้ง่ายได้แก่

1) พันธุกรรม  ลูกมีโอกาสเป็นโรคภูมิแพ้สูงถึง 50% หากมีคุณพ่อหรือคุณแม่เป็นภูมิแพ้ และถ้าทั้งคุณพ่อและคุณแม่เป็นโรคภูมิแพ้ ลูกยิ่งมีโอกาสเป็นมากขึ้นถึง 70% และมีอาการภูมิแพ้เร็วอีกด้วย

2) สิ่งแวดล้อม ได้แก่ สารก่อภูมิแพ้ ที่ลูกได้รับจากการหายใจ สัมผัส หรือกินเข้าไป ทั้ง

-สารก่อภูมิแพ้ในบ้าน เช่น ฝุ่น ไรฝุ่น แมลงสาบ รังแคหรือขนของแมวและสุนัข เชื้อราในอากาศ ควันบุหรี่

– สารก่อภูมิแพ้นอกบ้าน เช่น เกสรดอกไม้ ฝุ่นละออง ควันรถยนต์ ควันไฟ หรือก๊าซพิษ

3) ปัจจัยอื่นๆ เช่น ลูกน้อยไม่ได้กินนมแม่ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นภูมิแพ้ หรือได้รับอาหารเสริมเร็วเกินไป คือได้รับอาหารเสริมก่อนอายุ 6 เดือน หรือได้ทานอาหารเสริมตั้งแต่อายุ 4 เดือน ก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้มีโอกาสเกิดโรคภูมิแพ้ได้

ซึ่งเด็กที่เป็นโรคภูมิแพ้จมูกจะมีปฏิกิริยาตอบสนองไวมากต่อสารก่อภูมิแพ้ต่างๆ  ฉะนั้นเมื่อใดก็ตามที่มีสารก่อภูมิแพ้เข้าสู่ร่างกายลูก จะเกิดกระบวนการที่ทำให้ภูมิแพ้กำเริบหรืออาการ คือมีสารที่ชื่อว่า อิมมูโนโกลบูลินอี (Immunoglobulin E; IgE) ถูกสร้างขึ้นมาและเข้าทำปฏิกิริยากับสารก่อภูมิแพ้ที่หายใจเข้าไป เป็นผลให้เซลล์บางชนิดภายในจมูก มีการแตกตัวและหลั่งสารเคมีออกมาทำให้เกิดการอักเสบ และมีอาการต่าง ๆ ของโรคภูมิแพ้จมูกตามมานั่นเอง

ภูมิแพ้จมูกในเด็กต่างจากหวัด และมีโรคแทรกซ้อนได้ง่าย

ภูมิแพ้มีอาการส่วนใหญ่คล้ายหวัด แต่จะเป็นเรื้อรัง เป็นๆ หายๆ อาการที่เด่นชัด ได้แก่ อาการคัดจมูก มีน้ำมูกไสไหล จามบ่อย คันในจมูก และมีเสมหะไหลลงคอ โดยอาการเหล่านี้อาจเกิดขึ้นตลอดปี หรือเป็นเพียงบางฤดูกาลก็ได้ โดยเฉพาะหน้าฝนหรือหน้าหนาว บางคนอาจมีอาการทางอื่นร่วมด้วย เช่น คันตา เคืองตา ตาบวม น้ำตาไหล จากการอักเสบของเยื่อบุภายในตา โดยบางคนมักจะมีอาการเฉพาะบางเวลาได้ เช่น มีอาการแพ้บ่อยในตอนเช้าหรือตอนกลางคืน ประมาณวันละ 1-2 ชั่วโมง คนที่เป็นภูมิแพ้จมูกนี้มักจะไม่มีไข้ แต่อาจมีอาการไอเรื้อรังด้วย เนื่องจากมีเสมหะไหลลงคอทำให้ระคายคอ  แต่หากมีอาการจาม คัดจมูก น้ำมูกไหล และมีไข้ เจ็บคอ ปวดเมื่อยตามร่างกายร่วมด้วยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นอาการของหวัดมากกว่า

แต่เรื่องสำคัญของเด็กหรือคนที่ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้จมูก ที่ละเลยหรือปล่อยให้มีอาการกำเริบเรื้อรังไม่ได้คือ ภาวะแทรกซ้อนจากโรคเหล่านี้

โรคไซนัสอักเสบ โดยไซนัสคือ โพรงอากาศที่อยู่ในกระดูกบริเวณใกล้จมูก มีส่วนท่อต่อกับจมูก ทำให้อากาศผ่านเข้าออกได้ แต่เมื่อเยื่อบุภายในจมูกบวมอักเสบจากภูมิแพ้จะทำให้ท่อต่อนี้มีการอุดตัน เกิดการติดเชื้อในโพรงไซนัส เกิดเป็นโรคไซนัสอักเสบ โดยมีอาการปวดบริเวณไซนัส ปวดศีรษะ น้ำมูกเขียว บางครั้งมีเสมหะไหลลงคอด้วย

โรคหูชั้นกลางอักเสบ ทำให้มีอาการปวดหู หูอื้อ หากเป็นเรื้อรังอาจมีหนองไหลออกจากหูเนื่องจากมีเยื่อแก้วหูทะลุได้

นอนกรน  คนที่ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้จมูกจะทำให้มีเยื่อบุจมูกบวม บางครั้งอาจมีต่อมทอนซิลและต่อมอะดีนอยด์โตร่วมด้วย มีผลทำให้ช่องทางเดินหายใจถูกอุดกั้น และมีอาการนอนกรนเกิดขึ้น ถ้าอาการรุนแรงอาจทำให้มีการหยุดหายใจเป็นช่วงๆ ขณะนอน ออกซิเจนต่ำ และมีผลต่อสมอง ทำให้เด็กสมาธิสั้น ส่งผลต่อพฤติกรรมและการเรียนรู้ได้

      การรักษาหรือบรรเทาอาการของโรคภูมิแพ้จมูกส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็น ยาสเตียรอยด์พ่นจมูก (intranasal steroids) เป็นยาที่ออกฤทธิ์เฉพาะที่ที่เยื่อบุจมูก โดยควบคุมการสังเคราะห์โปรตีน  เมื่อพ่นยาสเตียรอยด์เข้าไปในโพรงจมูก  ยาสเตียรอยด์จะผ่านเข้าไปในเซลล์แล้วไปจับกับตัวรับสเตียรอยด์ แล้วเข้าไปนิวเคลียสของเซลล์และมีผลต่อการสังเคราะห์โปรตีน โดยยับยั้งเซลล์ การสร้างและการหลั่งสารเคมี ที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบ  โดยจะลดปริมาณของเซลล์ที่เกี่ยวกับการอักเสบของเยื่อบุจมูก ทำให้ยับยั้งปฏิกิริยาการอักเสบภูมิแพ้ และปฏิกิริยาที่เยื่อบุจมูกมีความไวต่อสิ่งกระตุ้นมากกว่าปกติได้ จึงมีผลช่วยบรรเทาอาการต่างๆ ของโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ เนื่องจากยาสเตียรอยด์พ่นจมูกสามารถลดอาการคัดจมูก น้ำมูกไหล คัน และจามได้   แต่อย่างไรก็ตามการยาสเตียรอยด์นั้น ต้องใช้ด้วยความระมัดระวังภายใต้ข้อบ่งชี้ และต้องหยุดยา เมื่อหมดความจำเป็น รวมถึงการใช้บ่อยๆ หรือนานๆ อาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้ 

ลดใช้สเตียรอยด์ หยุดภูมิแพ้ แก้ด้วยสเปรย์พ่นจมูก

หากลูกเป็นโรคภูมิแพ้จมูก มีอาการจาม น้ำมูกไหลเป็นประจำไม่หายสักที จึงจำเป็นต้องมีการใช้ยาสเตียรอยด์  แต่การใช้ยาสเตียรอยด์ในเด็กต้องมีความระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากอาจมีผลเสียต่อร่างกาย ฉะนั้นจะดีกว่าไหม หากเราไม่เอายาสเตียรอยด์เข้าไปในร่างกายลูก แล้วใช้วิธีสร้างเกราะป้องกันสารก่อภูมิแพ้ให้ลูกอย่างปลอดภัยด้วยสเปรย์พ่นจมูกชนิดผง ที่สกัดจากธรรมชาติที่ไม่มีผลเสียต่อร่างกาย แถมยังช่วยไม่ให้อาการภูมิแพ้จมูกของลูกกำเริบได้ด้วย

สเปรย์พ่นจมูกชนิดผง นาซัลลีซ ชิลเดรน อัลเลอจี บลอคเกอร์ ( Nasaleze Children Allergy Blocker)  นวัตกรรมใหม่ ที่ช่วยดักจับป้องกันสารก่อภูมิแพ้ ไม่ให้เข้าสู่ร่างกายจนไปกระตุ้นอาการภูมิแพ้ต่างๆของลูกให้กำเริบได้ง่ายขึ้น  ทั้งยังใช้ได้อย่างปลอดภัยในเด็ก ด้วยคุณสมบัติพิเศษต่างๆ นั่นคือ

• ผลิตจากสารสกัดธรรมชาติที่ไม่เป็นอันตราย ผงเซลลูโลส HPMC 97% และ ผงสตรอเบอร์รี่ 3% มีประสิทธิภาพป้องกันสารก่อภูมิแพ้ในอากาศไม่ให้เข้าสู่เยื่อบุโพรงจมูก

• ช่วยดักจับและป้องกันสารก่อภูมิแพ้เข้าสู่จมูกลูกรัก สร้างเกราะป้องกันในจมูกให้ลูกอย่างปลอดภัย ด้วยการเปลี่ยนผงสเปรย์เป็นเจลใสในโพรงจมูก ไม่ให้สารก่อภูมิแพ้ในอากาศเข้าสู่เยื่อบุโพรงจมูกของลูกได้

• มีกลไกช่วยลดการแตกตัวของแกรนูลในแมสเซลล์ การหลั่งอิมมูโนโกลบูลินอีและฮีสตามีน ทำให้สามารถป้องกันการเกิดอาการภูมิแพ้ หรือแพ้อากาศได้

• ผ่านการทดสอบทางคลินิกมากกว่า 30 การศึกษา มีผลการศึกษายืนยันประสิทธิภาพในการป้องกันสารก่อภูมิแพ้ และอาการภูมิแพ้กำเริบได้ลดอาการจาม คัดจมูก น้ำมูกไหล

• ผลิตในประเทศอังกฤษ มาตรฐานระดับสากล จากสมาคมโรคภูมิแพ้แห่งสหรัฐอเมริกา (American Academy of Allergy Asthma & Immunology) ได้ระบุว่าเป็นตัวป้องกันสารก่อภูมิแพ้ (Allergen blocker) ได้

• ออกฤทธิ์เร็วภายใน 2 นาที พ่นเพียง 1 ครั้ง สามารถป้องกันสารก่อภูมิแพ้ได้ถึง 6 ชั่วโมง พ่นวันละ 2-3 ครั้ง หรือทุก 6-8 ชั่วโมง ช่วยป้องกันสารก่อภูมิแพ้ในอากาศให้ลูกได้ตลอดทั้งวัน

• ไม่มีส่วนผสมของยา ไม่มีผลข้างเคียง ไม่มีฤทธิ์ทำให้ง่วงนอน ปลอดภัยต่อลูกน้อยตั้งแต่อายุ 18เดือนขึ้นไป คุณแม่ตั้งครรภ์ คุณแม่ให้นมบุตร และผู้สูงวัย

• สามารถให้ลูกรักนำไปโรงเรียน ใช้พ่นเพื่อป้องกันสารก่อภูมิแพ้ระหว่างวันได้ดี
• สามารถใช้คู่หรือเสริมกับยาพ่นจมูกอื่น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพยาพ่นจมูกได้
• สเปรย์พ่นจมูกชนิดผง เป็นทางเลือกใหม่ในการใช้ปกป้องลูกจากสารก่อภูมิแพ้ เมื่อต้องการหลีกเลี่ยงการใช้ยาสเตียรอยด์

นาซัลลีซ อัลเลอจี บลอคเกอร์ ใช้สำหรับป้องกันการเกิดอาการภูมิแพ้หรือแพ้อากาศ ดังนั้นควรเริ่มใช้ นาซัลลีซ อัลเลอจี บลอคเกอร์ก่อนที่จะสัมผัสสารก่อภูมิแพ้เพื่อป้องกันไม่ให้สารก่อภูมิแพ้ในอากาศเข้าสู่เยื่อบุโพรงจมูก ไปกระตุ้นให้เกิดอาการแพ้ต่างๆ นาซัลลีซ อัลเลอจี บลอคเกอร์ได้รับการพิสูจน์จากงานวิจัยทางคลินิก พบว่ามีประสิทธิภาพดีในกลุ่มผู้ป่วยโรคจมูกอักเสบจากภูมิแพ้ชนิดมีความรุนแรงน้อยถึงปานกลาง

นาซัลลีซ อัลเลอจี บลอคเกอร์ใช้เพื่อป้องกันอาการแพ้ก่อนเริ่มมีอาการ จึงไม่เหมือนยาที่ช่วยบรรเทาอาการ สามารถใช้ในการรักษาร่วมกับยา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาโรคภูมิแพ้หรือการแพ้อากาศ

ในกรณีที่ต้องใช้ยาพ่นทางจมูกอื่นร่วมด้วย ให้ใช้นาซัลลีซ อัลเลอจี บลอคเกอร์ภายหลังจากการใช้ยาพ่นจมูกอื่น เพื่อไม่ไห้เจลที่ดักจับในโพรงจมูกถูกทำลาย

เพื่อป้องกันโรคภูมิแพ้หรือการแพ้อากาศ ให้บีบพ่นนาซัลลีซ อัลเลอจี บลอคเกอร์วันละ 2-3 ครั้ง เพื่อให้ประสิทธิภาพการป้องกันสารก่อภูมิแพ้ในอากาศเข้าสู่เยื่อบุโพรงจมูกคงอยู่ตลอด

จากการศึกษาวิจัยพบว่า นาซัลลีซ อัลเลอจี บลอคเกอร์ สามารถป้องกันไม่ให้สารก่อภูมิแพ้ในอากาศเข้าสู่เยื่อบุโพรงจมูกได้นานถึง 6 ชั่วโมง ต่อการบีบพ่น 1 ครั้ง* (Diethart/Emberlin Invitro study)

นาซัลลีซ อัลเลอจี บลอคเกอร์ เป็นตัวเดียวที่ทางสมาคมโรคภูมิแพ้แห่งสหรัฐอเมริกา (American Academy of Allergy Asthma & Immunology) ได้ระบุว่าเป็นตัวป้องกันสารก่อภูมิแพ้ (Allergen blocker) ได้